แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) รวมทั้งวิธี อิ๊คซี่ (ICSI)!!

[Cindy700]

     เด็กหลอดแก้วความต่างที่สำคัญระหว่าง วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) และวิธี อิ๊คซี่ (ICSI) เป็นกระบวนการที่ตัวน้ำอสุจิจะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่



สามารถอ่านรายละเอียดได้จาก >> เด็กหลอดแก้ว https://www.dhcivfthai.com/icsi/

     สำหรับ IVF นั้นเซลล์ไข่รวมทั้งตัวสเปิร์ม ถูกนำไปวางผสมกันในจานเพาะเลี้ยง โดยปล่อยให้ตัวสเปิร์มว่ายเข้ามาผสมกับเซลล์ไข่เองตามธรรมชาติ อสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงแค่นั้นจึงจะสามารถทำการถือกำเนิดกับไข่ได้

     สำหรับ ICSI จะคัดเชื้อน้ำอสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์เพียงตัวเดียว รวมทั้งใช้เข็มแก้วขนาดเล็ก เจาะเปลือกไข่ ฉีดตัวเชื้อเข้าไปในเซลล์ของไข่โดยตรง ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ วิธี ICSI สามารถเพิ่มอัตราการปฏิสนธิได้ผลที่ดีเยี่ยม รวมทั้งช่วยลดปัญหาเรื่องการกำเนิดที่ผิดปกติ ได้แก่ การปฏิสนธิจากน้ำอสุจิหลายตัวรวมทั้งสเปิร์มไม่อาจจะเจาะเปลือกไข่ ได้เอง ฯลฯ

     ข้อชี้ชัดสำหรับการทำ ICSI

     ข้างชายที่มีปริมาณน้ำเชื้อน้อยกว่าธรรมดา ไม่พอทีจะทำ IUI หรือ IVF

     ข้างชายที่มีปัญหาอสุจิเคลื่อนน้อยกว่าธรรมดา

     ข้างชายที่มีสเปิร์มมีรูปร่างไม่ปกติ < 4 %

     ข้างชายที่มีปัญหาน้ำเชื้อไม่สามารถเจาะเปลือกไข่เพื่อให้เกิดการปฎิสนธิได้

     ในรายที่ต้องเก็บน้ำอสุจิจากการผ่าตัด (Surgical sperm retrieved) ได้แก่คนไข้ชายที่เคยทำหมันมาก่อน

     ในรายที่ข้างหญิงแช่แข็งไข่ไว้

     คู่แต่งงานที่อยากได้ตรวจคัดเลือกกรองโรคทางพันธุกรรมด้วยแนวทาง NGS

     ประโยชน์ซึ่งมาจากการทำ ICSI

     ช่วยเพิ่มอัตราการปฏิสนธิ 70-85 % ทำให้จับตัวได้อ่อนมากขึ้น

     ช่วยเพิ่มช่องทางให้มีการท้องสูงมากขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นในกรุ๊ปเสี่ยงคนที่มีภาวะมีลูกยาก ฝ่ายหญิงอายุเฉลี่ยที่ 35 ปีขึ้นไป

     ในกรณีที่ทำ ICSI รวมทั้งมีการผสมกันแล้วได้ตัวอ่อนหลายตัว มีตัวอ่อนเหลือสามารถเก็บแช่แช็งไว้ทำคราวถัดมาได้ โดยไม่ต้องกลับมาเริ่มขั้นตอนกระตุ้นไข่เก็บไข่ใหม่ หากผู้ป่วยพร้อมมีลูกคนถัดไปเมื่อใดสามารถกลับมาทำได้เรื่อย

     เป็นกรรมวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ได้โอกาสมีครรภ์สำเร็จสูงที่สุด เมื่อเทียบกับกรรมวิธีรักษาอื่นๆ

     ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)

     วันที่ 1-3 ของรอบรอบเดือน หมอจะทำอัลตราซาวน์ดูปริมาณฟองไข่ขึ้นต้น และก็เจาะเลือดฮอร์โมน แล้วต่อจากนั้นจะให้ยาฉีดการกระตุ้นไข่ ประมาณ 8-12 วัน เพื่อได้เซลล์ไข่ปริมาณหลายใบซึ่งมีคุณภาพที่ก็ดี เมื่อฟองไข่มีขนาดที่เหมาะสมแพทย์จะทำเจาะเก็บไข่ออกมา แล้วหลังจากนั้นผู้ที่มีความชำนาญด้านการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน จะนำไข่เหล่านั้นมาผสมกับอสุจิที่ผ่านการเตรียมรวมทั้งคัดแยกเฉพาะน้ำเชื้อที่บริบูรณ์ โดยห้องปฏิบัติการพินิจพิจารณาอสุจิ แล้วต่อจากนั้นนำมาเก็บเอาไว้ใน ตู้สำหรับเลี้ยงตัวอ่อนเพื่อปลดปล่อยให้สเปิร์มได้ทำการปฏิสนธิกับไข่แล้วก็กระทำการตรวจผลการถือกำเนิดต่อจากนั้นราว 16-18 ชั่วโมง รวมทั้งเลี้ยงตัวอ่อนพวกนั้นไปประมาณ 5-6 วัน

     การย้ายตัวอ่อน (Embryo Transfer)

     การย้ายตัวอ่อน (ET) ใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก จะทำหลังจากเก็บเซลล์ไข่รวมทั้งปฏิสนธิกับน้ำเชื้อ แล้ว ซึ่งจะสามารถย้ายได้ตั้งแต่ตัวอ่อนระยะวันที่ 3 ถึงวันที่ 5 ซึ่งแบ่งเป็นการย้ายตัวอ่อนรอบสด (Fresh ET) รวมทั้งรอบแช่แข็งได้ (Frozen-thawed ET) โดยการย้ายตัวอ่อนแต่ละแบบ นั้นขึ้นกับข้อชี้ชัดทางด้านการแพทย์ในแต่ละราย

     การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) เหมาะสำหรับ

     ฝ่ายหญิงมีความผิดปกติของท่อนำไข่ที่ตีบหรือตันทั้งสองข้าง

     ข้างหญิงมีสภาวะตกไข่ผิดปกติ (PCOS)

     ฝ่ายหญิงมีภาวการณ์เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

     คู่ชีวิตที่มีความผิดธรรมดาทางพันธุกรรม

     ข้างชายมีปัญหาเชื้ออสุจิมีปริมาณน้อยหรือคุณภาพไม่ดี

     สภาวะมีลูกยากที่ไม่รู้จักสาเหตุ

     อัตราการตั้งท้อง จากวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI)

     โดยธรรมดาอัตราความสำเร็จของแนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF/ICSI) จะออกจะสูง อยู่ที่ 50-70% โดยอัตราการประสบความสำเร็จ จะขึ้นอยู่กับเหตุหลายชนิด ตัวอย่างเช่น

     อายุของข้างหญิง

     คุณภาพของเซลล์ไข่แล้วก็น้ำอสุจิ

     คุณภาพของตัวอ่อน แล้วก็ความเปลี่ยนไปจากปกติของโครโมโซมของตัวอ่อน

     ความครึ้มของเยื่อบุโพรงมดลูกในวันที่ใส่ตัวอ่อน

     ความแตกต่างจากปกติของมดลูก แล้วก็เยื่อบุโพรงมดลูก

     ข้อดีของแนวทางการทำ ICSI

     เป็นแนวทางที่ได้โอกาสเสร็จมากที่สุดในขณะนี้

     สามารถรักษาหลากหายปัญหามีลูกยาก

     หญิงคุมกำเนิดรวมทั้งทำเป็น

     ผู้ชายที่มีน้ำอสุจิต่ำยิ่งกว่ามาตรฐานมาตรฐานสามารถทำ IVF ได้

     สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนได้

     ข้อเสียของแนวทางการทำ ICSI

     ราคาแพงสูงยิ่งกว่า IUI

     มีขั้นตอนที่สลับซับซ้อนกว่า

     ใช้เวลายาวนานหลายวัน

     ในบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการเก็บไข่ ตัวอย่างเช่น ภาวะฟองไข่ถูกกระต้นมากจนเกินไป



ขอบคุณสำหรับที่มา บทความ เด็กหลอดแก้ว https://www.dhcivfthai.com/icsi/