• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด ใกล้ทะลุ 33,000 หุ้นขึ้นยกแผง ประเดิมเดือนพ.ย.

Started by Chigaru, November 04, 2022, 03:51:51 PM

Previous topic - Next topic

Chigaru


ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ใกล้ทะลุระดับ 33,000 จุด ขณะที่หุ้นปรับตัวขึ้นทุกกลุ่มในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนพ.ย. โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากเดือนต.ค.

ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,958.57 จุด บวก 225.62 จุด หรือ 0.69% ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 0.9% และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 1.18%

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 14% ในเดือนต.ค. ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.2519 ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้น 8% และ 3.9% ตามลำดับ

นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

นอกจากนี้ ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไฟเซอร์ และอูเบอร์ รวมทั้งการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4% ในวันนี้

การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถลดต้นทุนในการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้เพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีกระแสข่าวว่า จีนได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือการผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. โดยการเลือกตั้งดังกล่าว ถือเป็นการ.ครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 35 ราย จากทั้งหมด 100 ราย นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก

ผลการสำรวจของ RealClearPolitics พบว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหลังการเลือกตั้งกลางเทอม จากปัจจุบันที่พรรคเดโมแครตมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งอยู่เล็กน้อย ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งก่อนการเลือกตั้งทั้งสองพรรคมีคะแนนเสียงเท่ากันอยู่ที่ 50-50

เจ้าหน้าที่หลายรายในทำเนียบขาวยอมรับว่า พวกเขามีความกังวลว่าพรรคเดโมแครตอาจสูญเสียการครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ขณะที่ผลสำรวจพบว่าพรรคเดโมแครตอาจเสียเก้าอี้ในวุฒิสภาในหลายรัฐให้แก่พรรครีพับลิกัน หลังจากที่ชาวอเมริกันไม่พอใจต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของรัฐบาล

หากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะเหนือพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ ก็จะทำให้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงที่เหลืออีก 2 ปีเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยคาดว่าพรรครีพับลิกันจะขัดขวางการผ่านกฎหมายต่างๆ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล