• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#1101
'บริทาเนีย' เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรก 2 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไป ชูดอกเบี้ย 4.00%-4.70% และอันดับความน่าเชื่อ 'BBB (Stable)'
 
"บริทาเนีย" หรือ BRI เตรียมเปิดจองหุ้นกู้ครั้งแรก จำนวน 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนรองรับการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยคาดว่าจะเสนอขายในเดือนพฤศจิกายนนี้

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนทั่วไป หรือที่เรียกว่า Public Offering จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% ต่อปี สำหรับหุ้นกู้ที่จะเสนอขาย เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ กำหนดจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 17 - 18 และ 21 พฤศจิกายน 2565

ทั้งบริษัทฯ และหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือที่ระดับ "BBB" แนวโน้ม "คงที่" เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 จากบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นระดับ Investment Grade สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ วัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้คือเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้แก่บริษัทฯ โดยบริษัทฯ ได้วางแผนจะนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจสำหรับซื้อที่ดินเพื่อรองรับพัฒนาโครงการใหม่ เป็นเงินทุนหมุนเวียน และชำระเงินกู้ยืมคืนให้กับบริษัทใหญ่

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BRI กล่าวต่อว่า "บริษัทฯ มีจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงในการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทดังกล่าวของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด" นางศุภลักษณ์ กล่าว

บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบในประเทศไทย ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ ไบรตัน (Brighton), บริทาเนีย (Britania), แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และเบลกราเวีย (Belgravia) การดำเนินธุรกิจในปีนี้อยู่ภายใต้แผนยุทธศาตร์ Growth Together มุ่งสร้างการเติบโตไปด้วยกันทุกภาคส่วน และมุ่งเน้นพัฒนาโครงการทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เน้นทำเลศักยภาพที่มีเศรษฐกิจเติบโตและการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านที่อยู่อาศัยและการฟื้นตัวของภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานล่าสุด บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้รวมช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 3,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขาย (พรีเซล) 9 เดือนแรกรวม 7,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 71% ของยอดขาย 11,000 ล้านบาท ที่ตั้งเป้าหมายในปีนี้

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 กด 819
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next หรือ ผ่าน Money Connect by Krungthai (https://moneyconnect.krungthai.com/)
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง) โทร. 02-626-7777
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
#1102

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (26 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่า ธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ อาจจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่รายงานข่าวที่ว่า นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษจะเลื่อนการเปิดเผยงบประมาณนั้น แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.59 จุด หรือ +0.61%

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น หลังธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด ซึ่งเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ จะชะลออัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว

ตลาดแทบไม่ได้รับผลกระทบ หลังนายซูนัคเลื่อนการประกาศแผนฟื้นฟูฐานะการคลังของอังกฤษไปเป็นวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งช้ากว่ากำหนดการเดิม 2 สัปดาห์ครึ่ง

สำหรับหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นอาทิ หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งพุ่งขึ้น 2.9% หลังเปิดเผยว่า การทดลองยาคาพิวาเซอร์ทิบ (Capivasertib) บรรลุเป้าหมายในการวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งทรวงอก

แต่หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วง 5.1% แม้เผยผลกำไรพุ่งขึ้น 40% ก็ตาม โดยราคาหุ้นถูกกดดันหลังจากธนาคารระบุว่า แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงมีปัญหา

หุ้นบาร์เคลยส์ ลดลง 0.3% หลังกันสำรองหนี้เสียในระดับสูง

หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ร่วง 4.1% หลังรายงานยอดขายลดลงในไตรมาส 3 และเตือนถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั่วโลก
#1103

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการแนวสูงสู่บ้านแนวราบ โดยการเปิดตัวบ้านแนวราบเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และวางเป้าหมายขยายพอร์ตโครงการแนวราบในหลากหลายเซ็กเมต์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกระดับ

ล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ใหม่ "ESTA Rangsit-Klong 2" (เอสต้า รังสิต-คลอง 2) เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 153 ยูนิต แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 153 และ 197 ตารางเมตร บนที่ดิน 35-55 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 4-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตภายใต้แนวคิด "New Modern Scandi" เป็นบ้านสไตล์สแกนดิเนเวียน ผสานกับความโมเดิร์นแบบอบอุ่น เรียบง่าย และยกระดับคุณภาพความสุขของคุณในสังคมส่วนตัว จุดเด่นคือพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ รองรับการใช้งานได้ถึง 17 ฟังก์ชัน เพื่อเปิดพื้นที่ให้สมาชิกในครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันสามารถออกกำลังกายท่ามกลางสวนขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วย Facilities ครบครัน ด้วยการรองรัการใช้งาน EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

โครงการเอสต้า รังสิต-คลอง 2 พร้อมเปิดจองครั้งแรกรอบ Pre-Sale ในวันที่ 29-30 ตุลาคมนี้ ณ สำนักงานขายโครงการ และจะนำโครงการเปิดตัวในงาน "ASSETWISE EXPO 2022" ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่แห่งปีของบริษัทฯ โดยมั่นใจว่าด้วยการดีไซน์บ้านสไตล์สแกนดิเนเวียนที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง จะได้รับการตอบรับ ที่ดีจากกลุ่ม Gen Y

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวว่า ด้านแผนการตลาดช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทจะจัดอีเวนต์ใหญ่แห่งปี "ASSET WISE EXPO 2022" ในวันที่ 27 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2565 ณ เซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยนำบ้านและคอนโดมิเนียมพร้อมโอนและโครงการใหม่ 21 โครงการ อาทิ แบรนด์เคฟ (KAVE), แอทโมซ (ATMOZ), โมดิซ (MODIZ), เอสต้า (ESTA) ฯลฯ จัดแคมเปญสุดพิเศษและโปรโมชั่น

"งาน ASSETWISE EXPO 2022 ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดของบริษัทฯ ในปีนี้ เพื่อมอบของขวัญให้กับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย สอดรับกับบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยปลายปีที่คึกคักขึ้น จากภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวหลังจากเปิดประเทศ ส่งผลดีต่อแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ นายกรมเชษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด "ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ" หรือ "We Build Happiness" ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 45 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 48,050 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 33 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 12 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 9,218 ล้านบาท
#1104
ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่เหมาะทำโครงการบ้านจัดสรร

ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่เหมาะทำโครงการบ้านจัดสรร, ที่ดินชลบุรีบ้านบึง5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย , ขายที่ดินชลบุรีบ้านบึงเหมาะทำสวนเกษตร
ที่ดินชลบุรีบ้านบึง5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย

ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่เหมาะทำโครงการบ้านจัดสรร, ที่ดินชลบุรีบ้านบึง5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย , ขายที่ดินชลบุรีบ้านบึงเหมาะทำสวนเกษตร

 ขายที่ดินชลบุรีบ้านบึงเหมาะทำสวนเกษตร ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่9ไร่เหมาะทำโครงการบ้านจัดสรร อำเภอสัต.บ จังหวัดชลบุรี,  ที่ดินชลบุรีบ้านบึงไร่5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย สร้างบ้าน ทำสวนเกษตร

 ขายที่ดินชลบุรีบ้านบึงเหมาะทำสวนเกษตร  ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่9ไร่เหมาะทำโครงการบ้านจัดสรร อำเภอสัต.บ จังหวัดชลบุรี, ที่ดินชลบุรีบ้านบึง5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย สร้างบ้าน ทำสวนเกษตร
ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่ ขายดิน9ไร่1งาน33 ตารางวา สัต.บ จังหวัดชลบุรี ขายไร่ละ 3,214,573-บ หรือ ขายถูกเพียง ตรวละ8036บ เหมาะทำโครงการบ้านจัดสรร

ที่ตั้ง ซอยวัดทรงเมตรา ถนนสุขุมวิท ตำบลบางเสร่ อำเภอสัต.บ จังหวัดชลบุรี ใกล้สวนนงนุช ถ.สุขุมวิท สัต.บ ชลบุรี
รายละเอียดที่ดิน
-ถนนในซอย 6 เมตร รถสวนได้สบายหน้ากว้าง 47 เมตร ความลึก 80 เมตร ปรับพื้นสูงใกล้เคียงกับถนนเรียบร้อย ในที่ดินมีถนนส่วนบุคคลสำหรับใช้ขับรถ ลงไปดูที่ได้ ที่ดินทำเลดี เหมาะสำหรับนักลงทุน จากปากซอยสุขุมวิท 2 กม.

สถานที่ใกล้เคียง
ใกล้สวนนงนุช
ใกล้สนามบินอู่ตะเภา
ใกล้โรงพยาบาล Ocean View

สามารถสร้างบ้านโครงการจัดสรรได้ ใกล้โรงไฟฟ้าย่อยสัต.บ
**ราคาขาย 30 ล้านบาท ค่าโอนคนละครึ่ง**

ตำบล บางเสร่ อำเภอสัต.บ ชลบุรี 20250 ประเทศไทย

https://maps.google.com/maps?q=12.749509,100.913121

ที่ดินบางเสร่9ไร่เหมาะทำโครการบ้านจัดสรร
ที่ดินบางเสร่9ไร่เหมาะทำโครการบ้านจัดสรร

สนใจติดต่อ 0963787862


ขายที่ดินที่5ไร่ใกล้อมตะนคร ที่ดินชลบุรีบ้านบึงไร่5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย สร้างบ้าน ทำสวนเกษตร
ที่ดินชลบุรีบ้านบึงไร่5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย สร้างบ้าน ทำสวนเกษตร จังหวัดชลบุรี

ที่ดินชลบุรีบ้านบึงไร่5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย สร้างบ้าน สวนเกษตร  ขายที่ดินเนื้อที่ 5 ไร่ ที่ตั้ง ต.สำนักบก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ราคาขาย 4,200,000 บาทไร่ ตรวละ 10500บ ทำเลดี ใกล้อมตะนคร


ที่ตั้งที่ดิน ตำบล หนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง ชลบุรี 20000 ประเทศไทย :

https://maps.google.com/maps?q=13.356999,101.05940200000001

ที่ดินชลบุรีบ้านบึง5เหมาะจัดสรรแบ่งขาย ขายที่ดินที่5ไร่ใกล้อมตะนคร 

ที่ดินชลบุรีบ้านบึง
ที่ดินชลบุรีบ้านบึง

สนใจติดต่อ 0963787862

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kaaiduan.com/ที่ดินชลบุรี/ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่9/

คำค้น

ขายที่ดินชลบุรีบางเสร่9ไร่เหมาะทำโครการบ้านจัดสรร, ขายที่ดิน9ไร่อำเภอสัต.บ,ขายที่ดินสัต.บตรวละ8036บ เหมาะทำโครการบ้านจัดสรร, ขายที่ดินจังหวัดชลบุรีเหมาะทำโครการบ้านจัดสรร, ที่ดินชลบุรีบ้านบึง5ไร่เหมาะจัดสรรแบ่งขาย, ขายที่ดินบ้านบึงตรวละ 10500บ เหมาะสร้างบ้านสร้างบ้าน,  ขายที่ดินบ้านบึง5ไร่เหมาะทำสวนเกษตร, ขายอำเภอสัต.บ-ตรวละ8036เหมาะจัดสรร, ขายที่ดิน5ไร่ใกล้อมตะนคร 
 
#1105
ที่พักบาน่าฮิลล์ พาเที่ยว เดินทางปลอดภัย ราคาย่อมเยา ที่พักบาน่าฮิลล์ มีไกด์ดูแล บ้านพัก โรงแรม ที่พักบาน่าฮิลล์ สะดวกสะบาย ของกินอร่อย มีบุคลากรดูแลท่านตลอดทาง ยินดีให้คำแนะนำ ที่พักบาน่าฮิลล์ ปี2565 -2566
https://bit.ly/3DceDJ6
#1106

ยูโรอ่อนค่าในวันนี้ แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 1 ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ณ เวลา 18.06 น.ตามเวลาไทย ยูโรอ่อนค่า 0.486% สู่ระดับ 1.003 ดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ ยูโรอ่อนค่าต่ำกว่าระดับ 1 ดอลลาร์ในวันที่ 22 ส.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญภาวะถดถอย

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 2 ในการประชุมวันนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยระบุว่า "อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ ECB"

ECB เริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินในเดือนก.ค. โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
#1107
UCoreของแท้จากบริษัทโดยตรง  Balance UCore สารสกัดจากธรรมชาติมากถึง 13 ชนิด 
น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันงา, น้ำมันเมล็ดงาขี้ม่อน, สารสกัดโสม, สารสกัดถั่งเช่า, เห็ดชิตาเกะ, เห็ดยามาบูชิตาเกะ, เห็ดไมตาเกะ, สารสกัดขิง, สารสกัดพลูคาว, สารสกัดเห็ดหลินจือ, เบต้ากลูแคน, โคเอนไซม์ Q10
Ucore เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีสารสกัดจากธรรมชาติ 13 ชนิด ทุกๆสารสกัดในผลิตภัณฑ์คัดมามีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ด้านต่างๆ
*สอบถามปรึกษาเพื่อให้การแนะนำที่ถูกต้องก่อนสั่งซื้อ
สรรพคุณสารสกัดในผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านใด
สอบถามสรรพคุณของสารสกัดในผลิตภัณฑ์ได้ทาง LINE:@balances

Balance UCore อาหารเสริม ประกอบด้วย สารสกัดจากธรรมชาติ13 ชนิด 
น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันงา, น้ำมันเมล็ดงาขี้ม่อน, สารสกัดโสม, สารสกัดถั่งเช่า, เห็ดชิตาเกะ, เห็ดยามาบูชิตาเกะ, เห็ดไมตาเกะ, สารสกัดขิง, สารสกัดพลูคาว, สารสกัดเห็ดหลินจือ, เบต้ากลูแคน, โคเอนไซม์ Q10
Balance UCore (BLU)
จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ปกติ 1,290 บาท
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ2กระปุกแถมฟรี1กระปุก
ส่งฟรีเคอรี่ มีบริการเก็บเงินปลายทาง
*ของแท้จากบริษัทโดยตรง*
สอบถามปรึกษาก่อนสั่งซื้อเพื่อแนะนำและแนะนำวิธีทานถูกต้องดีต่อสุขภาพสอบถามสั่งซื้อ
LINE: @balances
รายละเอียดเพิ่มเติม Balance U core
#1108
จำหน่าย ชุดวิบากแว่นวิบาก ราคารวมส่งเรียบร้อยแล้ว

โมโตครอส (อังกฤษ: Motocross) หรือมักจะเรียกว่า MX หรือ MotoX เป็นกีฬาที่ใช้มอเตอร์ไซค์ หรือ All-Terrain Vehicle (ATV) กีฬาประเภทนี้มีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส ชุดวิบาก และได้รับความนิยมในประเทศอังกชุดวิบากฤษตั้งแต่ พ.ศ. 2467 และเริ่มมีการแข่งขันในระดับนานาชาติตั้งแต่ พ.ศ. 2495 โดยใช้รถจักรยานยนต์ขนาด 500 ซีซี คำว่าโมโตครอส จำหน่ายชุดวิบากแว่นวิบาก มาจากคำว่า "Motorcycle" และ "Cross Country" ในการแข่งขันในประเภทนี้ผู้แข่งขันจะบิดมอเตอร์ไซค์ และแสดงผาดโผนบนมอเตอร์ไซด์ 250 ซีซี โดยเรียกการแข่งขันประเภทนี้ว่า "ฟรีสไตล์โมโตครอส"-FMX ซึ่งจัดการแข่งขันเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 ในการแข่งขันกีฬาเอกซ์เกมส์ และหลังจากนั้นก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก[1]

 
#1109
ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน "บ. บีซีพีจี" เป็น "A" จาก "A-" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ ?A? จากเดิมที่ระดับ ?A-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นไปตามการเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เป็น ?A/Stable? จากเดิม ?A-/Stable? ในวันที่ 27 ตุลาคม 2565 นี้

อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัท (Standalone Credit Profile ? SACP) ยังคงอยู่ที่ระดับ ?bbb+? โดยอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ ?A? ซึ่งสูงกว่าอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอยู่ 2 ขั้นนั้นสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่เห็นว่าบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทย่อยหลักของ BCP

อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงรายได้ที่แน่นอนและสินทรัพย์โรงไฟฟ้าของบริษัทที่มีการกระจายตัวเป็นอย่างดี ในทางกลับกัน ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนโดยความเสี่ยงในการบริหารงานโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมาย (Execution Risk) และระดับภาระหนี้ของบริษัทที่คาดว่าจะสูงขึ้นเพื่อการสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นบริษัทย่อยหลักของ BCP

ทริสเรทติ้งมีความเห็นว่าบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทย่อยหลักของ BCP เนื่องจากทริสเรทติ้งมองว่าบริษัทมีส่วนที่สำคัญต่อกลยุทธ์ในอนาคตของ BCP โดยปัจจุบัน BCP ถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 57.4% และมีอำนาจควบคุมกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและนโยบายทางการเงินของบริษัทโดยผ่านทางคณะกรรมการบริษัท รวมถึงคณะกรรมการการลงทุน และผู้บริหารระดับสูงของบริษัท

บริษัทเป็นหน่วยธุรกิจซึ่งมีหน้าที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนให้แก่ BCP ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การขยายไปยังธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดที่แน่นอนและส่งเสริมความยั่งยืนของกลุ่มบางจากต่อไป อีกทั้งบริษัทจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการไปให้ถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ของกลุ่มอีกด้วย นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในจำนวนมากพอสมควรให้แก่ BCP ซึ่งการมีกระแสเงินสดที่มั่นคงนั้นช่วยให้บริษัทสามารถลดความผันผวนในธุรกิจโรงกลั่นของ BCP ได้เป็นอย่างมาก

การลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้ามีการกระจายตัวดี

ณ เดือนมิถุนายน 2565 บริษัทเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ดำเนินงานแล้วจำนวน 32 โครงการด้วยกำลังการผลิตตามสัญญารวมตามสัดส่วนการลงทุนของบริษัทที่ขนาด 390 เมกะวัตต์ ซึ่งประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 65% โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 29% และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 6%

โรงไฟฟ้าของบริษัทตั้งอยู่ใน 4 ประเทศคือ ไทย (47%) ญี่ปุ่น (20%) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) (29%) และฟิลิปปินส์ (4%) ทริสเรทติ้งมองว่ากลยุทธ์การลงทุนของบริษัทที่มีการกระจายตัวดีจะช่วยลดความเสี่ยงให้แก่บริษัทได้ทั้งในแง่ของประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุนและมีแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าที่พึ่งพาได้

มีกระแสเงินสดที่มั่นคง

รายได้ที่มั่นคงของบริษัทมาจากการที่บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และผู้รับซื้อไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือหลาย ๆ รายในประเทศญี่ปุ่น

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงเป็นส่วนหลักในการสร้างรายได้ของบริษัทโดยคิดเป็นประมาณ 80% ของ EBITDA เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทมีผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินงานแล้ว โดยกระแสเงินสดจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นั้นสามารถคาดการณ์ได้ในระดับสูงจากการที่มีราคาค่าไฟฟ้าที่แน่นอนและมีความเสี่ยงในการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำ

กำลังการผลิตใหม่ช่วยลดแรงกดดันจากการหมดอายุของค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม

กำลังการผลิตรวมตามสัญญาของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยทั้งหมดที่จำนวน 176 เมกะวัตต์นั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60%-70% ของ EBITDA ทั้งหมดของบริษัท โดยมีจำนวน 133 เมกะวัตต์ที่ได้รับค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ที่อัตรา 8 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง (หน่วย) ในช่วง 10 ปีแรกหลังจากเปิดดำเนินงาน ซึ่งคิดเป็นรายได้จากค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่มที่ประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ในส่วนนี้จะค่อย ๆ ทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไปเมื่อค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่มของโรงไฟฟ้าบางส่วนของบริษัททยอยหมดอายุลง โดยทริสเรทติ้งประมาณการว่ารายได้ของบริษัทในส่วนนี้จะลดลงอย่างมากในปี 2567 และจะหมดไปในปี 2568 เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทได้เตรียมความพร้อมโดยการซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว ไว้แล้วจำนวน 2 แห่งซึ่งมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 114 เมกะวัตต์และเปิดดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นอีกจำนวน 3 แห่ง (รวม 65 เมกะวัตต์) ทริสเรทติ้งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้าง EBITDA ให้แก่บริษัทที่ประมาณ 1.6-1.8 พันล้านบาทต่อปีเมื่อดำเนินงานเต็มปี

?

ยังคงขยายสินทรัพย์โรงไฟฟ้าต่อไป

บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้นอีก 719 เมกะวัตต์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าซึ่งประกอบไปด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ใน สปป. ลาว และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกหลายแห่งในไต้หวัน ปัจจุบันบริษัทมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ ?Monsoon? ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกใน สปป. ลาว โดยโครงการมีขนาด 600 เมกะวัตต์และจะจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าประเทศเวียดนาม (Vietnam Electricity -- EVN) ภายในสิ้นปี 2568 โครงการดังกล่าวจะเพิ่มกำลังการผลิตให้แก่บริษัทที่จำนวนราว ๆ 230 เมกะวัตต์เมื่อคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นในสัดส่วน 38% ของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกหลายแห่งในไต้หวันซึ่งจะค่อย ๆ เพิ่มกำลังการผลิตรวมจำนวน 469 เมกะวัตต์ในช่วงปี 2566-2567 ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่าบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นจากโอกาสในการเปิดรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ประมาณการกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าโครงการใหม่ ๆ ภายในประเทศจะเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

มีการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคต

บริษัทกำลังขยายไปสู่ธุรกิจสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าย่อย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทได้ลงทุนในระบบสายส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดนด้วยการซื้อหุ้น 25% ใน Nam Tai Hydropower Sole Co., Ltd. (Nam Tai) บริษัทจะชำระเงินด้วยการโอนรายการลูกหนี้การค้าที่มีกับการไฟฟ้าลาว (Electricite du Laos -- EDL) ให้แก่ผู้ขายรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในทางกลับกัน บริษัทจะได้รับสิทธิ์ในทางเศรษฐกิจ (Economic Rights) จำนวน 50% ในระบบสายส่งซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการจำหน่ายไฟฟ้าจาก สปป. ลาว ไปยังประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ธุรกรรมดังกล่าวยังมีส่วนช่วยในแผนธุรกิจของบริษัทที่จะเปลี่ยนผู้รับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่งคือ ?Nam San 3A? และ ?Nam San 3B? จาก EDL มาเป็น EVN อีกด้วย

นอกเหนือจากโครงการที่กล่าวไปแล้ว ทริสเรทติ้งยังมีสมมติฐานว่าบริษัทจะใช้เงินลงทุนอีกราว 6.3 พันล้านบาทสำหรับการซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานอยู่แล้วในช่วงปี 2565-2566 ซึ่งจะช่วยเร่งกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทเนื่องจากโครงการเหล่านี้จะสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที

เมื่อพิจารณาจากนโยบายวินัยทางการเงินของบริษัทแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทเพิ่งขายผลประโยชน์ทั้งหมดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซียไป โดยบริษัทได้รับเงินสดจำนวน 1.45 หมื่นล้านบาทและจะรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนเป็นจำนวน 2 พันล้านบาท การขายเงินลงทุนดังกล่าวช่วยเพิ่มความสามารถในการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ตามแผนงานของบริษัท ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทอาจพิจารณาขายเงินลงทุนในโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันออกไปบางส่วนเพื่อช่วยลดภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่ขยายกำลังการผลิต ทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะจ่ายเงินสุทธิรวมทั้งสิ้นที่ราว ๆ 3.75 หมื่นล้านบาทสำหรับค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนและเงินลงทุนอื่น ๆ ในระหว่างปี 2565-2568

ความเสี่ยงในการดำเนินโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

กำไรในอนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการพัฒนาโครงการเป็นสำคัญ ในช่วงที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ บริษัทยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการโดยเฉพาะอย่างยิ่งความล่าช้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม ทั้งนี้ การพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมมักมีความเสี่ยงในการก่อสร้างค่อนข้างสูงจากการออกแบบและการก่อสร้าง โดยความล่าช้าในการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายที่เกินกว่างบประมาณอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อความเป็นไปได้ของโครงการ

นอกจากนี้ การลงทุนของบริษัทในโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่จะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงด้านทรัพยากรที่สูงกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกด้วย ทั้งนี้ การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำเป็นหลักซึ่งอาจมีความแปรปรวนเป็นอย่างมากในแต่ละปี ในขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังงานลมก็มีความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงานที่สูงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายของกลไกเครื่องจักรกลในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ความสำเร็จของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมยังขึ้นอยู่กับปริมาณและความเร็วของกระแสลมอีกด้วย

รายได้และภาระหนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น

ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานว่าบริษัทจะสามารถพัฒนาโครงการและซื้อกิจการได้ตามแผนการที่วางไว้และโรงไฟฟ้าของบริษัทน่าจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจต่อไป ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ราว 5.4 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2566 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.4-7.5 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2567-2568 ทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะมี EBITDA ที่ระดับ 3.6 พันล้านบาทในปี 2565 และจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 6 พันล้านบาทต่อปีภายในปี 2568 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA จะอยู่ที่ราว 7-8 เท่าในช่วงปี 2566-2568 และคาดการณ์ว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อทุนจะอยู่ที่ระดับ 50%-57% ในระหว่างปี 2566-2568

มีสภาพคล่องที่น่าพอใจ

ทริสเรทติ้งประเมินว่าปัจจุบันบริษัทมีสถานะสภาพคล่องที่น่าพอใจ โดย ณ เดือนมิถุนายน 2565 บริษัทมีเงินสดในมือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท และวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ (วงเงินที่ไม่สามารถยกเลิกได้และวงเงินที่ไม่มีภาระผูกพัน) ประมาณ 1.2 พันล้านบาท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดการณ์ว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ประมาณ 2.2 พันล้านบาทในปี 2565 ดังนั้น เงินสดและวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ ตลอดจนเงินทุนจากการดำเนินงานที่คาดการณ์ไว้จะเพียงพอสำหรับการชำระเงินกู้ระยะยาวที่จะถึงกำหนดราว 3.9 พันล้านบาทได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

โครงสร้างหนี้สิน

ณ เดือนมิถุนายน 2565 บริษัทมีภาระหนี้ตามงบการเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 2.57 หมื่นล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน (Priority Debt) จำนวน 7.5 พันล้านบาทซึ่งประกอบด้วยเงินกู้ยืมของบริษัทย่อย ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่ระดับ 29%

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

? ในช่วงปี 2565-2568 ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ของบริษัทจะเป็นดังนี้

- โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย : 13%-20%

- โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น : 11%-15%

- โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวัน : 16%-17%

- โรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว : 48%-50%

? ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนรวมถึงการลงทุนสุทธิจะอยู่ที่จำนวน 3.75 หมื่นล้านบาทในระหว่างปี 2565-2568

? กำลังการผลิตติดตั้งรวมจะเพิ่มขึ้นไปถึง 1,038 เมกะวัตต์ในปี 2568

? อัตรา EBITDA จะอยู่ที่ประมาณ 67%-84% ในช่วงปี 2565-2568

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถดำรงผลการดำเนินงานที่น่าพอใจเอาไว้ได้โดยที่การก่อสร้างและการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ นั้นคาดว่าจะสำเร็จได้ตามแผน นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทและกระแสเงินสดต่อภาระหนี้จะอยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้ตลอดระยะเวลาในการขยายธุรกิจของบริษัท

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้ลงได้อย่างมีสาระสำคัญ ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอาจได้รับการปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทถดถอยลงไปจากที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้อย่างมีนัยสำคัญ หรือสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมากซึ่งอาจเกิดจากการก่อหนี้เพื่อการลงทุนในระดับสูง

ทั้งนี้ ภายใต้ ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ? (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้งนั้น อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทจะขึ้นอยู่กับอันดับเครดิตองค์กรของ BCP ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับอันดับเครดิตของ BCP ก็จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทในทิศทางเดียวกันได้ นอกจากนี้ อันดับเครดิตของบริษัทยังอาจเปลี่ยนแปลงได้หากมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าสถานะของบริษัทที่มีต่อกลุ่มบางจากนั้นอ่อนแอลง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG)

อันดับเครดิตองค์กร: A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

BCPG249A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A

BCPG269A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A

BCPG289A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A

BCPG319A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2574 A

BCPG339A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2576 A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
#1110
เควิชั่น แนะนำ บีคอน ร่วมลงทุนใน Vui App แพลตฟอร์มเบิกถอนเงินเดือนล่วงหน้าอันดับหนึ่งในเวียดนาม

ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าค้นหานวัตกรรมบริการเพื่อลูกค้าภูมิภาค AEC+3 ต่อเนื่อง โดยบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (เควิชั่น) แนะนำ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงทุนในวุยแอป (Vui App) แพลตฟอร์มให้บริการเบิกถอนเงินเดือนล่วงหน้าอันดับหนึ่งในเวียดนาม หวังช่วยแก้ปัญหาคนงานที่มีรายได้น้อยและปานกลาง เล็งต่อยอดธุรกิจด้านการปล่อยสินเชื่อ ประกัน ให้แก่ลูกค้าบุคคลบุคคลธรรมดาและกลุ่มผู้ใช้แรงงานในเวียดนาม ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการสินเชื่อขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (เควิชั่น) เปิดเผยว่า ประเทศเวียดนามมีประชากรอยู่เกือบ 100 ล้านคน จากการคาดการณ์ของธนาคารโลก ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เวียดนามจะมีการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ที่ 7% ต่อปี โดยหนี้ภาคครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (Household Debt to GDP) มีแนวโน้มขยายตัวทุกปี แต่ยังคงเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับไทย แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตด้านความต้องการสินเชื่อ ขณะเดียวกันเวียดนามยังมีอัตราการเติบโตของจำนวนชนชั้นกลางซึ่งเป็นแรงงานสูงที่สุดในอาเซียน จากภาพรวมตลาดแรงงานเวียดนามพบว่าในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา (2552-2562) จำนวนแรงงานทั้งตลาดเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 1.36 ต่อปี โดยมีกลุ่มผู้ใช้แรงงาน (Blue Collar) เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.94 ต่อปี ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 80 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของธุรกิจการให้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าสำหรับค่าแรงที่ได้ทำงานไปแล้วแต่ยังไม่ถึงรอบเบิกจ่ายในแต่ละเดือนหรือ Earned Wage Access (EWA) นอกจากนี้ นายจ้างในพื้นที่กำลังทดสอบการใช้บริการ EWA เพื่อให้บริการ EWA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสำหรับคนงานและแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนธุรกิจบริการ EWA ในเวียดนามต่อไป

เควิชั่นซึ่งมีภารกิจค้นหาธุรกิจที่มีศักยภาพทางนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธนาคารในตลาดภูมิภาค AEC+3 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้แนะนำบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) ซึ่งเป็น Venture Capital ของธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงทุนใน Vui App แพลตฟอร์มเบิกถอนเงินเดือนล่วงหน้าอันดับหนึ่งในเวียดนาม ที่เข้าถึงการใช้งานของกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ยังคงมีอุปสรรคในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินโดยเฉพาะสินเชื่อในระหว่างเดือน ขณะที่บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้า EWA จาก Vui App จะช่วยให้แรงงานที่ปฏิบัติงานในบริษัทนายจ้างที่ได้เข้าทำสัญญาใช้บริการและเชื่อมต่อระบบกับ Vui App เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถเบิกเงินเดือนล่วงหน้าสำหรับค่าแรงที่ได้ทำงานไปแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารหรือคุณสมบัติเพิ่มเติม Vui App จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ดีทั้งฝั่งลูกจ้างกลุ่มแรงงานที่ต้องการใช้เงิน และทางฝั่งบริษัทที่สามารถส่งมอบสวัสดิการให้แก่พนักงานได้อย่างสะดวก

นายหยุ๋ง ดั๋ง ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Vui App เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจหลักของ Vui App คือบริการเบิกถอนเงินเดือนล่วงหน้าหรือ EWA ที่ ณ ปัจจุบันพนักงานสามารถเบิกถอนเงินได้จากค่าแรงที่ได้ทำงานไปแล้วจริงในเดือนนั้นๆ บริษัทจำนวนมาก ได้เข้ามาเชื่อมต่อกับ Vui app เพื่อมอบสวัสดิการเหล่านี้ให้กับพนักงาน ส่งผลให้จำนวนพนักงานที่ใช้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าบน Vui app ได้เพิ่มขึ้นจาก 60,000 เป็น 100,000 ในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งขณะนี้ Vui App กำลังขยายธุรกิจไปยังการให้บริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การเติมเงินโทรศัพท์ การจ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง (High-yield saving account) และในอนาคต Vui App ยังวางแผนที่จะเป็นตัวกลางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เช่น สินเชื่อ ประกัน ที่คัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานกลุ่มแรงงาน จึงทำให้ Vui App เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม EWA ในประเทศเวียดนาม ณ ขณะนี้

สำหรับการระดุมทุนรอบ Pre-Series A ครั้งนี้จะมี Openspace Venture (Leading VC Investor in Singapore) เป็น Lead Investor และมีบริษัทผู้ร่วมลงทุนและนักลงทุนรายอื่นอีกหลายราย เช่น Golden Gate Ventures (Regional Fund in SEA), FEBE Ventures (Early Stage Venture Capital Investor) , Good Water Capital (Global Venture Capital), Ventura Capital (American Venture Capital)
#1111

นางพิทยา วรปัญญาสกุล ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (Spending) ของบริษัทถือว่ามีการเติบโตขึ้นมากกว่าคาด โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC เติบโตขึ้น 23% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้เติบโต 15% และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังเห็นแนวโน้มของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตได้ในระดับ 20-22%

โดยปัจจัยสนับสนุนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่เติบโตสูงขึ้นมองว่ามาจากความมั่นใจในการจับใจใช้สอยมากขึ้นของกลุ่มที่มีกำลังซื้อ หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย และเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว การประกอบอาชีพต่างๆกลับมาดำเนินงานตามปกติ ทำให้มีรายได้กลับมามากขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ หรือกลุ่มคนทำงานประจำที่เป็นฐานลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตของ KTC มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดประกัน และหมวดมาร์เก็ตเพลส หรือออนไลน์ช้อปปิ้งที่เป็น 2 หมวดใน 3 อันดับแรก

ขณะเดียวกันการเดินทางที่กลับมามากขึ้น หลังจากกลับมาเปิดเมืองตามปกติ ทำให้คนกลับมาทำงาน มีการใช้จ่ายในหมวดสถานีบริการน้ำมันมากขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน รวมถึงการท่องเที่ยวที่ภาครัฐมีการกระตุ้น และการเปิดประเทศให้สามารถบินไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ทำให้การใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดท่องเที่ยวกกลับมาอยู่ในอันดับ 4-5 แล้ว จากก่อนหน้านี้ที่อยู่อันดับ 10 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีการเติบโตสูงกว่าที่บริษัทคาดไว้

นอกจากนี้บริษัทได้เห็นแนวโน้มของตัวเลขของการใช้จ่ายผ่านบัตรของฐานลูกค้า KTC ต่อราย ที่สูงขึ้นในระดับหนึ่งจากปีก่อน ซึ่งปัจจุบันยอดเงินการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าเพิ่มขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 11,000-12,000 บาท/บัตร/เดือน จากเดิมที่อยู่เกือบ 10,000 บาท/บัตร/เดือน สะท้อนภาพของความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอบที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตามในส่วนของการขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตใหม่นั้นยังค่อนข้างทำได้ช้า ซึ่งในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สามารถขยายจำนวนบัตรเครดิตใหม่ได้เพียง 120,000 ใบ จากเป้าที่บริษัทตั้งไว้ที่ 250,000 ใบ ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทปรับกลยุทธ์หันมาขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ที่สูงขึ้นในระดับ 50,000 บาท/เดือนขึ้นไป เพราะบริษัทต้องการขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อต่อยอดกลุ่มลูกค้าของบริษัท และต้องการหันมาเน้นด้านคุณภาพของลูกค้ามากกว่าเน้นปริมาณลูกค้า เพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตบัตรเครดิตของ KTC โดยที่ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนฐานบัตรเครดิตรวม 2.5 ล้านใบ

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - การตลาดบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า MAAI by KTC ได้นำเสนอแนวคิด "Digital CRM Platform" ซึ่งเป็นลอยัลตี้ แพลตฟอร์มที่ให้บริการกับพันธมิตรธุรกิจแบบครบวงจรในการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าสมาชิก มาเป็นระยะเวลาราว 10 เดือน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอต่อกลุ่มธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดได้เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรในการสร้างแพลตฟอร์มด้าน CRM ร่วมกับ MAAI by KTC ที่เป็นพันธมิตรหลัก ได้แก่ KTC, บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG), บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และ ONE SIAM อีกทั้งยังได้มีแผนการขยายพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมด้านความหลากหลายในการทำ CRM ให้กับพันธมิตร

"เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งของการมีร้านค้าสมาชิกรับแลกคะแนนหลากหลายครอบคลุมทั่วประเทศ มี Ecosystem ที่สมบูรณ์ แพลตฟอร์ม MAAI by KTC จะสามารถตอบความต้องการของธุรกิจได้ทุกมิติ โดยให้พันธมิตรธุรกิจสามารถต่อยอดซึ่งกันและกันได้ไม่มีที่สิ้นสุด" นางประณยา กล่าว
ล่าสุด MAAI by KTC ได้ร่วมกับบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) และกลุ่มร้านอาหารเครือ Kouen Group เชื่อมต่อสิทธิประโยชน์ในการใช้คะแนนเริ่มต้น 350 MAAI Points ก็สามารถแลกซื้อสินค้าต่างๆ ได้ เช่น ใช้ 450 คะแนน MAAI แลกรับป็อปคอร์น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ขนาด 64 Oz. มูลค่า 170 บาท หรือใช้ 350 คะแนน MAAI แลกรับขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย ขนมเบื้องมิชลิน ภายใต้กลุ่มร้านอาหารเครือ Kouen Group มูลค่า 150 บาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีพันธมิตรผู้ประกอบการที่ใช้แพลตฟอร์ม MAAI by KTC ในหลากหลายธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจน้ำมัน กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มธุรกิจรีเทล และร้านค้าถุงเงิน โดยมีแผนจะขยายเครือข่ายต่อเนื่องมากขึ้นกว่าปัจจุบันที่มีเครือข่ายในการแลกคะแนนกว่า 400,000 จุด และยังเดินหน้าขยายช่องทางร้านค้าในการใช้คะแนน MAAI แลกรับสิทธิประโยชน์ เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของสมาชิกอีกด้วย
#1112
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยกระดับ 'แอปยูชูส' เพิ่มฟีเจอร์ เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตั้งเป้ายอดใช้งาน 7 ล้านบัญชี ภายในปี 2565

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยกระดับแอป "ยูชูส" (UCHOOSE) แอปที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงินสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นเพื่อลูกค้า เชื่อมต่อชีวิตให้สุดทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งบริการทางการเงิน และกิน ช้อป เที่ยว ทั้งสมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อผ่านแอป, คัดสรรโปรโมชันตรงใจ, รับเครดิตเงินคืนทันใจ, ช้อปดีลสุดคุ้มจากพันธมิตรชั้นนำผ่าน U MALL และฟีเจอร์ใหม่ U EATS เอาใจสายกิน รวมโปรโมชันสุดคุ้มจากพันธมิตรร้านอาหารชั้นนำและแอปฟู้ดเดลิเวอรี พร้อมดีลเด็ดจากร้านดังให้เลือกซื้อผ่านแอป ตอบไลฟ์สไตล์ทางการเงินคนรุ่นใหม่ เผยมุ่งพัฒนาแอปยูชูสเป็นเครื่องมือเพิ่มศักยภาพด้านการบริการ การตลาด และการขยายฐานลูกค้า พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มฐานผู้ใช้บริการช่องทางดิจิทัล ตั้งเป้ายอดบัญชีที่ลงทะเบียนใช้แอปเพิ่มขึ้น 10 % หรือ แตะ 7 ล้านบัญชีภายในปี 2565

นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล แบรนด์บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน, และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า "ปัจจุบัน ช่องทางดิจิทัลนับเป็นช่องทางบริการที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2565 มีการทำธุรกรรมผ่านแอปยูชูส (UCHOOSE) แอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงินสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ สูงถึงกว่า 3,300 ล้านรายการ รวมมูลค่ากว่า 67,000 ล้านบาท บริการที่ได้รับความนิยม ได้แก่ บริการชำระบิลบัตรเครดิตผ่านแอป โดยเชื่อมต่อกับแอป KMA ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้น 79%, บริการชำระเงินด้วยการสแกน QR บัตรเครดิตผ่านแอป ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้น 104% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน U CASH บริการขอสินเชื่อเงินสดผ่านแอป UCHOOSE มีการทำรายการผ่าน UCHOOSE เป็นช่องทางหลัก คิดเป็นกว่า 70% จากทุกช่องทาง ในปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงมุ่งจะพัฒนาให้แอป UCHOOSE ไปอีกขั้น เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มศักยภาพด้านการบริการ-การตลาด-การขยายฐานลูกค้า รวมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า พร้อมต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายฐานผู้ใช้บริการช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง"

"เป้าหมายของ UCHOOSE ในปีนี้ คือ การเป็นแอปพลิเคชันไลฟ์สไตล์ทางการเงินชั้นนำ (Financial Lifestyle Application) ที่เป็นมากกว่าแอปพลิเคชันที่ให้บริการบริหารบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อทั่วไป แต่เป็นจุดเชื่อมต่อของทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยในปีนี้ นอกจากบริการทางการเงินแล้ว ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เพื่อเชื่อมต่อชีวิตให้สุดทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งกิน ช้อป เที่ยว แบบครบจบในแอปเดียว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า พร้อมต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโปรโมชันที่หลากหลายและตรงใจผู้ใช้แอปของเรามากขึ้น เช่น ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด U EATS เอาใจสายกิน กับโปรโมชันสุดคุ้มจากร้านอาหารชั้นนำทั่วไทยและแอปฟู้ดเดลิเวอรี พร้อมรีวิวร้านอาหาร และดีลเด็ดจากร้านดัง, U LIKE คัดสรรโปรโมชันให้ตรงกับไลฟ์สไตล์เฉพาะคุณ, U MALL ให้ลูกค้าช้อปโปรแรงจากแบรนด์ดังและร้านค้าพันธมิตรชั้นนำ เป็นต้น"

แอปพลิเคชัน "ยูชูส" (UCHOOSE) แอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงินสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เวอร์ชั่นใหม่ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์สุดล้ำ เช่น U CARD สมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อผ่านแอป, U LIKE คัดสรรโปรโมชันให้ตรงกับไลฟ์สไตล์เฉพาะคุณ, ลงทะเบียนร่วมโปรโมชัน ง่ายเพียงคลิกเดียว, PROMOTION TRACKING เช็คสถานะ ติดตามสถานะโปรโมชัน รู้ยอดเครดิตเงินคืนทันที, รับเครดิตเงินคืนรวดเร็วทันใจภายใน 2 วัน (เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด), U MALL แหล่งรวมโปรแรงจากแบรนด์ดังและร้านค้าพันธมิตรชั้นนำให้คุณช้อปได้แบบโดนใจ, และฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด U EATS เอาใจสายกิน กับโปรโมชันสุดคุ้มจากร้านอาหารชั้นนำทั่วไทยและแอปฟู้ดเดลิเวอรี พร้อมดีลเด็ดจากร้านดังให้เลือกซื้อได้แบบคุ้มๆ เร็วๆนี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเวอร์ชั่นใหม่ ได้แล้ววันนี้ เพียงค้นด้วยคำว่า 'UCHOOSE' ในแอป สโตร์ หรือเพลย์ สโตร์ แล้วลงทะเบียนใช้งานด้วยตัวเอง

"เพื่อสื่อสารฟีเจอร์ใหม่ของแอป UCHOOSE พร้อมขยายฐานผู้ใช้แอป ให้ครอบคลุมกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงได้จัดทำแคมเปญสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยได้นักแสดงขวัญใจวัยรุ่น "ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์" ร่วมถ่ายทอดฟีเจอร์ใหม่ผ่านวิดีโอออนไลน์ www.krungsriconsumer.com/uchoose ซึ่งสื่อสารถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่สะดวกสบายด้วยบริการที่รู้ใจครบจบในแอปเดียว โดยคาดว่าด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่มอบบริการหลากหลาย เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงใจนี้ จะช่วยทำให้แอปพลิเคชัน UCHOOSE เป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายฐานผู้ใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ พร้อมสร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้า ภายในปี 2565 จะมีลูกค้าลงทะเบียนใช้แอปยูชูส กว่า 7 ล้านบัญชี (เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับปีก่อน)" นางสาวณญาณี กล่าวสรุป
#1113

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ต.ค. 2565

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาด รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ซึ่งรวมถึงแคทเธอร์ พิลลาร์ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ เปิดเผยตัวเลขกำไรที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งการขาดทุนในธุรกิจเมตาเวิร์ส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,033.28 จุด เพิ่มขึ้น 194.17 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,807.30 จุด ลดลง 23.30 จุด หรือ -0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,792.67 จุด ลดลง 178.32 จุด หรือ -1.63%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) แต่ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด และส่งสัญญาณว่า อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะชะลอลงในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 410.19 จุด ลดลง 0.12 จุด หรือ -0.03% หลังจากร่วงลงถึง 1.2% ก่อน ECB ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,244.03 จุด ลดลง 32.28 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,211.23 จุด เพิ่มขึ้น 15.42 จุด หรือ +0.12% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,073.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.62 จุด หรือ +0.25%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเชลล์ประกาศผลกำไรเพิ่มขึ้น และวางแผนที่จะเพิ่มการจ่ายเงินปันผล ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกในตลาดเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ระดับสูง และแนวโน้มที่เศรษฐกิจที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,073.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.62 จุด หรือ +0.25%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 89.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 96.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,665.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.8 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 19.494 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 967.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22.30 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,938.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) ขานรับสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.81% แตะที่ระดับ 110.5870

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9916 ฟรังก์ จากระดับ 0.9865 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.9569 โครนา จากระดับ 10.8675 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.25 เยน จากระดับ 146.30 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3559 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3570 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0084 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1561 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1626 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 32,033.28 จุด เพิ่มขึ้น 194.17 จุด, +0.61%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,807.30 จุด ลดลง 23.30 จุด, -0.61%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 10,792.68 จุด ลดลง 178.32 จุด, -1.63%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,073.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.62 จุด, +0.25%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,244.03 จุด ลดลง 32.28 จุด, -0.51%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,211.23 จุด เพิ่มขึ้น 15.42 จุด, +0.12%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 59,756.84 จุด เพิ่มขึ้น 212.88 จุด, +0.36%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 7,091.76 จุด เพิ่มขึ้น 47.82 จุด, +0.68%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,454.09 จุด ลดลง 0.89 จุด, -0.06%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,230.58 จุด เพิ่มขึ้น 109.05 จุด, +1.78%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,015.24 จุด เพิ่มขึ้น 6.86 จุด, +0.23%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 15,427.94 จุด เพิ่มขึ้น 110.27 จุด, +0.72%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,982.90 จุด ลดลง 16.60 จุด, -0.55%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 12,926.37 จุด เพิ่มขึ้น 197.32 จุด, +1.55%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,288.78 จุด เพิ่มขึ้น 39.22 จุด, +1.74%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,345.24 จุด ลดลง 86.60 จุด, -0.32%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,845.10 จุด เพิ่มขึ้น 34.20 จุด, +0.50%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,042.30 จุด เพิ่มขึ้น 37.20 จุด, +0.53%
#1114
สำหรับอาการเวียนศีรษะหรืออาการบ้านหมุน ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่อาการเหล่านี้บางที ก็เป็นสัญญาณของร่างกายที่กำลังบอกว่าเราว่า อาจจะมีโรคเหล่านี้ถามหาอยู่ก็ได้
โรคหินปูนในหูชั้นใน เกิดการเสื่อมสภาพของหูชั้นใน มักพบในผู้สูงอายุ มักเป็นช่วงสั้นๆ แต่จะเป็นซ้ำเกือบทุกวัน และจะมีอาการหูอื้อ แขนขาชา อ่อนแรง

น้ำในหูไม่เท่ากัน เกิดจากหูชั้นในผิดปกติ ทำให้มีอาการบ้านหมุน สูญเสียการทรงตัว คลื่นไส้อาเจียน

เวียนศีรษะจากไมเกรน โดยจะมีอาการเวียนศีรษะร่วมกับปวดศีรษะตุ้บๆ อาจมีอาการหูอื้อ เห็นแสงวูบวาบร่วมด้วย

โรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง โลหิตจาง น้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ส่งผลให้เกิดอาการบ้านหมุน เวียนศีรษะ 

โรคเครียด มักจะเกิดอาการเวียนศีรษะในสภาวะเครียด หรือเกิดจากความเครียดทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้
 
ดังนั้น หากมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน อย่าปล่อยทิ้งไว้นะคะ เพราะคุณอาจเสี่ยงต่อ 5 โรคเหล่านี้ได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที และเริ่มต้นดูแลสุขภาพดีๆ ด้วย Balance U Core กันนะคะ

Balance UCore (BLU)
จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ปกติ 1,290 บาท
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ2กระปุกแถมฟรี1กระปุก
ส่งฟรีเคอรี่ มีบริการเก็บเงินปลายทาง
U core ของแท้จากบริษัทโดยตรง
สอบถามปรึกษาก่อนสั่งซื้อเพื่อแนะนำ และวิธีทานถูกต้องดีต่อสุขภาพสอบถามสั่งซื้อ
LINE: @balances
รายละเอียดเพิ่มเติม Ucore
#1115
อีก 1 คู่รัก คุณนุ่มและคุณมะพร้าว ที่ให้ความไว้วางใจ ลีวาลีย์ เวดิ้ง [url=https://www.livaliwedding.com/]รับจัดงานแต่งงาน[/i][/b][/url] ได้ดูแลในงานพิธีฉลองมงคลสมรส ที่โรงแรม Centra ขอบคุณทุกความรักที่ทำให้เราได้รู้จักกัน ขอบคุณทุกโอกาสที่คู่บ่าวสาวมอบให้เรา ขอบคุณทุกคำชื่นชมและความชื่นใจของคุณพ่อคุณแม่ที่สุดแสนประทับใจในผลงานของเรา เราจะตอบแทนทุกความไว้วางใจ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมและประทับใจ ฤกษ์ดีปีนี้ให้ ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน ดูแลงานแต่งงานของคุณ เพราะเรา จะทำให้วันที่สำคัญที่สุด เป็นมากกว่า " งานแต่งงาน
ลีวาลีย์ เวดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน "
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
FACEBOOK =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=kK-R]https://www.facebook.com/livaliwedding/
LINE. ลีวาลีย์ เวดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน ออแกไนซ์งานแต่งงาน ให้เช่าพานขันหมาก Livali Wedding
IG : livaliwedding
WEBSITE. http://www.livaliwedding.com/
Mobile 0888744499,0979565144
ลีวาลีย์ เวดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน รับจัดงานแต่งครบวงจร ออ แก ไนซ์ งานแต่ง ดูแลพิธีการ โดย ดิ๊พ บอยสเก๊าท์ พิธีกรงานแต่ง ขอดูแลทุกคู่รัก ด้วยหัวใจ ด้วยอุปกรณ์ที่ทรงคุณค่าและมีความสวยงามตามหลักจารีตประเพณี ลำดับทุกขั้นตอนพิธี โดย พิธีกรงานแต่งงาน มืออาชีพ ดิ๊พ บอยสเก๊าท์
LIVALI WEDDING รับจัดงานแต่งงาน บริการถ่ายพรีเวดดิ้ง
=AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่งงาน =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่งงานเช้า =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานอีเว้นท์ =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกร =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#ให้เช่าพานขันหมาก =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดพานขันหมาก =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดพานขันหมากเอก =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดพานขันหมาก =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#นายพิธีงานแต่งงาน =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#นายพิธี =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกร =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงาน =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงานเช้า =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งพิธีเช้า =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#ออแกไนซ์งานแต่ง =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่ง =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่งงาน =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงานครบวงจร =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงายที่บ้าน =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานอีเว้นท์ =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานทำบุญ =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานเปิดตัว =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับถ่ายพรีเวดดิ้ง =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#รับถ่ายพรีเซ็นเทชั่น =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พรีเวดดิ้ง =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พรีเซ็นเทชั่นงานแต่งงาน =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#พรีเซ็นเทชั่นคู่บ่าวสาว =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#Presentationwedding =AZXX9HsK1-eXe8icgnHFe06sTovh0upi95x4QmpDBNw6H0gtGomUuUkmDZFDWQe3r5XvpGS1JxEZlxDYt-HEI7XfbdHfNPpYG-MjqIrW3pkwvP35f1PeSeAWOPVHmRZmMW1PAAuOfgCX-5NN35GISvTmMlZ2ThPCE6lM3hke9nF7Wm41RVnjsXZ2Ssf1s6tHEeSVyG8ey6nDfIc7OIiIqfFe&__tn__=*NK-R]#Presentation

#1116

นายชนน วังตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) กล่าวถึงเป้าหมายในการเข้ามาบริหาร AQ ว่า บริษัทวางแผนเดินหน้าพัฒนาทุกธุรกิจเพื่อสร้างกำไร พร้อมแผนปรับโครงสร้างเพื่อสร้างเสถียรภาพ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้น

AQ จะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทใหม่ โดยมีแผนจะทำการขายที่ดินหรือทรัพย์สินของบริษัทฯที่ไม่ทำกำไร หรือไม่อยู่ในกระแสแล้วออกไป เพื่อนำเงินทุนไปกระจายการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจที่สามารถสร้างกำไรได้มากกว่า และนำไปต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯให้เติบโตต่อไปเพื่อสร้างกำไรและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น

ปัจจุบัน AQ ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Holding Company มีธุรกิจหลัก คือ 1.)ธุรกิจโรงแรม อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของAquarius Group จำนวน 4 โรงแรม คือ โรงแรม The Tarna Align Resort เกาะเต่า,โรงแรม ShaSa Resort & Residences เกาะสมุย, โรงแรม Malibu Resort & Beach Club เกาะสมุย และ โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายวรวุฒิ ไหลท่วมทวีกุล กรรมการบริหาร AQ ผู้มีความความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวเป็นผู้ดูแล

2.) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งลงทุนและพัฒนาในด้านอสังหาริมทรัพย์แนวราบ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ซึ่งได้ความเชี่ยวชาญจากนายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ AQ เป็นผู้ดูแลธุรกิจดังกล่าว

3.) ธุรกิจพลังงาน ทางบริษัทฯได้เข้าไปลงทุนใน บริษัท GEP Thailand และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ได้ความเชี่ยวชาญจากนายชำนาญ วังตาล กรรมการบริหารบริษัท AQ ในการดูแลธุรกิจนี้

4.) ธุรกิจสินเชื่อบุคคล MSCW อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ให้บริการสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันและสามารถขอสินเชื่อได้ทั่วประเทศไทย โดยธุรกิจนี้ทางบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนผันแปรและต้นทุนต่ำ ใช้บุคลากรไม่มาก ตามรูปแบบธุรกิจ fintech รวมถึงได้ความเชี่ยวชาญของนายชนน CEO AQ เข้ามาสานต่อธุรกิจนี้ให้เติบโตกว่าที่เคยเป็นมา

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจกัญชา-กัญชงที่ทางบริษัทฯเพิ่งเข้าลงทุนไปมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท โดยนายวรวุฒิ กรรมการบริหาร AQ ซึ่งรับหน้าที่ในการดูแลธุรกิจนี้ ตั้งใจจะมุ่งมั่นจากธุรกิจต้นน้ำก่อน เพื่อต่อยอดสู่ธุรกิจปลายน้ำต่อไปในอนาคต และคาดว่าธุรกิจนี้จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทฯได้ในระยะยาว
#1117
diet-meals พวกเราเป็นช่วยให้คุณฟื้นฟูสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ เพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ที่ Plantiful เรามุ่งเน้นที่การใช้ ส่วนประกอบที่คุณวางใจได้และได้รับ การผลักดันและสนับสนุน จากวิทยาศาสตร์ พวกเรามั่นใจว่าสุขภาพคือความรวยสูงสุด diet-meals รวมทั้งเป้าหมายของ diet-meals ของกินของพวกเราเน้นที่ของกินจริงจากแหล่งพืชที่ไม่ผ่านการกลั่น diet-meals และก็ผ่านกรรมวิธีการ
#1118
สั่งอาหารสุขภาพ30วัน เราเป็นช่วยทำให้คุณฟื้นฟูสุขภาพรวมทั้งความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ เพียงนิดหน่อย ที่ Plantiful เรามุ่งเน้นที่การใช้ ส่วนประกอบที่คุณวางใจได้แล้วก็ได้รับ การส่งเสริม จากวิทยาศาสตร์ เรามั่นใจว่าสุขภาพเป็นความมั่งคั่งสูงสุด สั่งอาหารสุขภาพ30วัน รวมทั้งจุดมุ่งหมายของ สั่งอาหารสุขภาพ30วัน ของกินของเราเน้นที่ของกินจริงจากแหล่งพืชที่ไม่ผ่านการกลั่น สั่งอาหารสุขภาพ30วัน และก็ผ่านขั้นตอนการ
#1119
โหลดแอปสะสมIOS สินค้าสะสม แฟชั่นคุณภาพดี ยอดฮิต มีอีกทั้งมือหนึ่ง แล้วก็มือสอง สามารถสั่งซื้อได้ โหลดแอปสะสมIOS ถ้าเกิดท่านกำลังหาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ราคาย่อมเยา พร้อมส่ง สามารถ สังซื้อเราได้ โหลดแอปสะสมIOS พวกเรามีให้เลือกมากมายก่ายกอง จำนวนไม่น้อย โหลดแอปสะสมIOS หลายรุ่น หลายแบบ เป็นของแบรนเนม คุณภาพดี ซื้อ ขาย รองเท้าผ้าใบผู้ชาย รองเท้าผ้าใบผู้หญิง DOWNLOAD APP SASOM ดาวโหลด แอปซื้อรองเท้า IOS

IOS  https://apps.apple.com/th/app/sasom/id1545536161 

ANDROID  https://play.google.com/store/apps/details?

https://bit.ly/3U1MvPU
#1120
โหลดแอปสะสมIOS สินค้าสะสม แฟชั่นคุณภาพดี ยอดฮิต มีอีกทั้งมือชั้นยอด แล้วก็มือสอง สามารถสั่งซื้อได้ โหลดแอปสะสมIOS ถ้าท่านกำลังหาผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพ ราคาย่อมเยา พร้อมที่จะจัดส่ง สามารถ สังซื้อเราได้ โหลดแอปสะสมIOS เรามีให้เลือกล้นหลาม หลายชิ้น โหลดแอปสะสมIOS หลายรุ่น หลายแบบ เป็นของกางรนเนม คุณภาพดี ซื้อ ขาย รองเท้าผ้าใบผู้ชาย รองเท้าผ้าใบผู้หญิง DOWNLOAD APP SASOM ดาวโหลด แอปซื้อรองเท้า IOS

IOS  https://apps.apple.com/th/app/sasom/id1545536161 

ANDROID  https://play.google.com/store/apps/details?

https://bit.ly/3Wc8fu4