• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jessicas

#1181
คอลลาเจนไดเปปไทด์ เราคือช่วยทำให้คุณฟื้นฟูสุขภาพแล้วก็ความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ เพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ที่ Plantiful เราเน้นที่การใช้ ส่วนประกอบที่คุณวางใจได้รวมทั้งได้รับ การสนับสนุน จากวิทยาศาสตร์ เรามั่นใจว่าสุขภาพคือความมั่งมีสูงสุด คอลลาเจนไดเปปไทด์ แล้วก็จุดหมายของ คอลลาเจนไดเปปไทด์ ของกินของเราเน้นที่อาหารจริงจากแหล่งพืชที่ไม่ผ่านการกลั่น คอลลาเจนไดเปปไทด์ รวมทั้งผ่านแนวทางการ
#1182

BTG ปิดเทรดเช้าที่ 37.25 บาท ลดลง 2.75 บาท (-6.88%) มูลค่าซื้อขาย 6,035.96 ล้านบาท จากราคาเปิด 39.75 บาท ราคาสูงสุด 39.75 บาท ราคาต่ำสุด 37.00 บาท

บล.ทรีนีตี้ ประเมินมูลค่าพื้นฐานสำหรับปี 2566 ของบมจ.เบทาโกร (BTG) ที่ 126,284 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นราคาเป้าหมายที่ 63 บาท โดยใช้ค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปี -0.5SD ของ CPF TFG และ GFPT ซึ่งเป็นธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 14.1 เท่า ทั้งนี้สาเหตุที่เราใช้ค่าเฉลี่ย PER -0.5SD เนื่องจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีปี 2564 ที่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารได้รับผลกระทบจากราคาสัตว์บกที่อ่อนตัวลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลจากการบริโภคที่ลดลงภายใต้สถานการณ์ COVID-19 และผลจากภาวะอุปทานส่วนเกินชั่วคราวจากการระบาดของ ASF ในสุกร (การระบาดทำให้ผู้เลี้ยงรายย่อยต่างเทขายสุกรเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนจากการเสียหายทั้งฟาร์ม) ส่งผลให้ในปี 2564 ที่ผ่านมากำไรของธุรกิจในกลุ่มเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารตกต่ำผิดปกติ และระดับ PER สูงผิดปกติ

คาดกำไรปี 65 ที่ 8,370 ล้านบาท เติบโต 728%YoY จากปัจจัยหนุนด้านราคาสัตว์บกทั้งสุกรขุนและไก่เนื้อที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลบวกต่อทั้งรายได้และอัตรากำไร แม้ว่าในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ ข้าวโพด และกากถั่วเหลืองจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันก็ตาม แต่ยังมีน้ำหนักน้อยกว่าราคาสัตว์บกที่ปรับตัวขึ้น โดยราคาสุกรได้รับผลบวกจากอุปทานจากการเลี้ยงสุกรที่ลดลงหลังการระบาดของ ASF ขณะที่ราคาไก่ได้รับผลบวกจากการเปิดตลาดส่งออกใหม่ในหลายประเทศ

และคาดกำไรปี 66-67 ที่ 8,956 ล้านบาท (+7%YoY) และ 9,908 ล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ แม้คาดราคาสัตว์บกจะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยฐานสูงทำให้ไม่ใช่ปัจจัยหนุนให้เติบโตสูงเหมือนในปี 65 โดยปัจจัยหนุนหลักจะมาจากการขยายกำลังการผลิตในเกือบทุกธุรกิจ รวมถึงในธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น การขยายโรงงานแปรรูปอาหารและเนื้อสัตว์ และโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทั้งยอดขายและอัตรากำไรโดยรวม

BTG เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารชั้นนำของไทย มีประสบการณ์ในการดำเนินงานในไทยมากว่า 50 ปี โดยมีรูปแบบการทำธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมในหลายด้านของห่วงโซ่การผลิต โดยแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในประเทศไทย ได้แก่ "BETAGRO" "S-Pure" "ITOHAM" "Better Phama" "Nexgen" "DOG n joy" "CAT n joy" และ "Perfecta" เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา อีกด้วย
#1183

"เบทาโกร" ส่งหุ้น BTG เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ วางเป้าหมายมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมต่อยอดความสำเร็จมุ่งสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ "BTG" บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่มีโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร และเป็นผู้นำในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารที่มีประสบการณ์กว่า 55 ปี นำหุ้น BTG เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ขึ้นแท่นเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย และยังมีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ ด้วยมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ประมาณ 80,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้วยกลยุทธ์การสร้างการเติบโตผ่านการขยายการลงทุนตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งในและต่างประเทศ การมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าสูง รวมถึงแสวงหาโอกาสเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ (New S-Curve) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า "เบทาโกร ได้นำหุ้น BTG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก (2 พฤศจิกายน 2565) ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ด้วยมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ที่ราคาเสนอขาย 40.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับความสนใจและกระแสตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศไทย ท่ามกลางสภาวการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนที่มีความผันผวนสูง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนของเบทาโกรในฐานะบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล (World-Class Branded Food Company) ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นจากบริษัทจดทะเบียนรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน ด้วยโมเดลธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบกับมีแบรนด์สินค้าที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและอีกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ตลอดจนกระบวนการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ"

บทาโกรมีเป้าหมายมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในระยะยาวผ่านแผนการลงทุนสำหรับ 5 ปีต่อจากนี้ (ปี 2565 - 2569) เพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ดังนี้

1) ขยายกำลังการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในอีก 5 ปีข้างหน้า ประกอบด้วย อาหารสัตว์เป็น 5.5 ล้านตันต่อปี อาหารแปรรูปและไส้กรอก 223,000 ตันต่อปี โรงงานแปรรูปสุกร 4.8 ล้านตัว และโรงงานแปรรูปไก่เนื้อ 270 ล้านตัว

2) มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมรับประทาน รวมทั้งจะเพิ่มสัดส่วนของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียมและมาตรฐาน

3) ขยายการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ในต่างประเทศ โดยมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานและฟาร์มเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา

4) ขยายการจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศและเพิ่มจุดหมายปลายทางการส่งออก ได้แก่ การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง และกัมพูชา เป็นต้น การขยายไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และเข้าไปเป็นพันธมิตรใหม่กับธุรกิจท้องถิ่นรวมถึงเพิ่มจุดหมายการส่งออกจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และเพิ่มยอดคำสั่งซื้อของลูกค้า (pocket share) ในภูมิภาคเดิม เช่น สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหราชอาณาจักร เป็นต้น นอกจากนี้ เบทาโกรยังมุ่งแสวงหาโอกาสการเติบโตใหม่ (New S-Curve) โดยจัดสรรเงินทุนรวมประมาณ 900 ล้านบาท สำหรับปี 2565-2569 เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ผ่าน Venture Building และ Venture Capital ใน 3 สาขา ได้แก่ 1) พัฒนาความสามารถในการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภค 2) สร้างแหล่งโปรตีนใหม่ที่ยั่งยืน 3) เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานในสายอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องไปกับธุรกิจหลัก เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

"นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของคณะผู้บริหาร ทีมงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่มีส่วนรวมในการนำหุ้น BTG เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะผลักดันธุรกิจของเบทาโกรให้เติบโตไปอีกขั้น จากแผนการนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ ความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน ความสามารถในการดึงดูดผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ซึ่งจะนำมาสู่โอกาสในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย" นายวสิษฐ กล่าวเสริม

การเสนอขายหุ้น IPO ของ BTG ในครั้งนี้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 500 ล้านหุ้น (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน) ที่ราคาเสนอขาย 40.00 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท โดยเบทาโกรวางแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปต่อยอดความสำเร็จ เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ได้แก่ (1) การลงทุนเพื่อการเข้าซื้อ และ/หรือก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ประมาณ 8,000 ล้านบาท (2) การปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระหนี้สินระยะสั้นและ/หรือระยะยาวให้แก่สถาบันการเงินประมาณ 8,960 - 10,500 ล้านบาท และ (3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน ไม่เกิน 1,021 ล้านบาท

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจร่วมเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนไปกับเบทาโกร แต่พลาดโอกาสลงทุนในครั้งนี้ สามารถซื้อหุ้น BTG ได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Stabilizing Agent) พร้อมเริ่มทำการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นในตลาดรอง (Stabilization) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วันแรกนับจากวันที่ 2 พฤศจิกายน เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.betagro-investor.com หรือ Email: ir@betagro.com
#1184
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร "บบส. สุขุมวิท" ที่ "AA+" และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 2.5 พันล้านบาท ที่ "AA+" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) ที่ระดับ ?AA+? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 2.5 พันล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 7 ปี ของบริษัทที่ระดับ ?AA+? ด้วยเช่นกัน โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะของ บสส. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญ (Importance) กับภาครัฐในระดับ ?สำคัญมาก? (Very Important) และมีความสัมพันธ์ (Linkage) กับ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) ในระดับ ?สูงสุด? (Integral) โดยกองทุนฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้ ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าความสัมพันธ์และบทบาทที่แข็งแกร่งมีนัยที่บ่งบอกถึงแนวโน้มที่มีความเป็นไปได้สูงที่ บสส. น่าจะได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ ในยามจำเป็น

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

กองทุนฯ ถือหุ้นทั้งหมดและมีบทบาทในการควบคุมดูแล

ทริสเรทติ้งคงการประเมินความสัมพันธ์ของ บสส. กับกองทุนฯ อยู่ในระดับ ?สูงสุด? (Integral) จาก ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ? ของทริสเรทติ้ง เนื่องจากกองทุนฯ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดและมีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของ บสส. การที่กองทุนฯ ถือหุ้นทั้งหมดใน บสส. ทำให้นโยบายในการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัทซึ่งรวมไปถึงนโยบายและทิศทางในการดำเนินธุรกิจและนโยบายทางการเงินถูกกำหนดและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดโดยคณะกรรมการบริษัทผ่านการประชุมของคณะกรรมการทุกเดือนและทุกไตรมาสกับทางกองทุนฯ ทั้งนี้ นอกจากบริษัทจะมีกรรมการบริษัทที่มาจากกองทุนฯ แล้วนั้น คณะกรรมการของบริษัทยังประกอบด้วยตัวแทนจาก ธปท. กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ของภาครัฐ ซึ่งเน้นย้ำถึงความใกล้ชิดระหว่างบริษัทและภาครัฐ อีกทั้ง นโยบายการดำเนินธุรกิจและเป้าหมายทางการเงินของบริษัทยังมุ่งเน้นที่เสถียรภาพทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าผลกำไรอีกด้วย

มีบทบาทเชิงนโยบายที่สำคัญในการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ

ความสัมพันธ์และความสำคัญของบริษัทต่อกองทุนฯ และ ธปท. ได้รับการสนับสนุนจากบทบาทของบริษัทในการเป็นตัวแทนของ ธปท. ในการดำเนินนโยบายที่สำคัญของธนาคารกลาง โดย บสส. ทำหน้าที่สำคัญในฐานะเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐเพียงแห่งเดียวซึ่งมีหน้าที่ในการเป็นหน่วยงานของรัฐในการช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินโดยการเข้าซื้อสินเชื่อด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยบทบาทหน้าที่ของ บสส. เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่สำคัญในการรับมือกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นมากในระบบธนาคารพาณิชย์ บทบาทนโยบายของบริษัทใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินโดยเน้นในการปรับโครงสร้างหนี้

นอกจากการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพแล้ว บสส. ยังมีบทบาทที่เด่นชัดอีกบทบาทหนึ่ง คือการเป็นตัวกลางในการดำเนิน ?โครงการคลินิกแก้หนี้? ซึ่งริเริ่มโดย ธปท. เพื่อส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้โดยสมัครใจสำหรับลูกหนี้รายย่อยที่ประสบปัญหาในการชำระคืนหนี้และเพื่อให้สถาบันการเงินได้รับชำระหนี้คืนมากขึ้น ในปี 2564 โครงการคลินิกแก้หนี้ได้ผ่อนปรนขยับวัน Cut-off Date สำหรับผู้กลับมาเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง (Re-entry Applicant) ขยายอายุผู้เข้าร่วมเป็น 70 ปี และผ่อนปรนการพิจารณาเอกสารแสดงรายได้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโครงการได้มากยิ่งขึ้น

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 โครงการคลินิกแก้หนี้มีจำนวนลูกหนี้ภายใต้โครงการเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยอยู่ที่ประมาณ 23,000 รายจากประมาณ 11,000 รายในปี 2563 และ 3,000 รายในปี 2562 ทั้งนี้ ภาระหนี้เงินต้นสะสมรวมของลูกหนี้ภายใต้โครงการอยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.5 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 และ 760 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้ภายใต้โครงการอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของบทบาทหน้าที่ของ บสส. ในการช่วยให้ ธปท. บรรลุเป้าหมาย

ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ

ทริสเรทติ้งเชื่อว่า บสส. มีโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษจากกองทุนฯ ในยามวิกฤติ แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้รับการสนับสนุนที่เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนจากกองทุนฯ นอกเหนือไปจากเงินกู้ยืมผ่านตราสารหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยจากกองทุนฯ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท แต่ทริสเรทติ้งก็มองว่ากองทุนฯ ให้การสนับสนุนทางการเงินโดยอ้อมให้แก่บริษัทผ่านการกำหนดตารางการชำระคืนหนี้ที่ทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ โดยกองทุนฯ ได้กำหนดการชำระคืนหนี้ของบริษัทที่ 1.5 พันล้านบาทต่อปี โดยเมื่อเทียบเงินจำนวนดังกล่าวกับกระแสเงินสดรับของบริษัทในแต่ละปีที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในอดีตและ 5 พันล้านบาทในปี 2564 แล้ว จะเห็นว่าบริษัทสามารถเก็บเงินสดรับจากการดำเนินงานมาใช้สำหรับการขยายธุรกิจได้ ทั้งนี้ การชำระคืนหนี้ในปี 2562-2564 ปีละ 1.5 พันล้านบาทนั้นเป็นจำนวนที่ลดลงจากการชำระคืนที่ประมาณ 5 พันล้านบาทในปี 2560 เนื่องจากกองทุนฯ มีนโยบายที่ต้องการให้ บสส. เสริมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมกับการคาดการณ์ของสินเชื่อด้อยคุณภาพที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ยังไม่มีข้อจำกัดในเชิงกฎระเบียบหรือนโยบายใด ๆ ที่จะห้ามมิให้กองทุนฯ ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ บสส. ในกรณีจำเป็น และทริสเรทติ้งยังมีมุมมองว่าการผิดนัดชำระหนี้ของ บสส. อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของกองทุนฯ ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นของ บสส.

เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง

บสส. ถือว่าเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในแง่ของขนาดของสินทรัพย์รวมเมื่อเทียบกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งสิ้น 62 แห่งในอุตสาหกรรมบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของไทย โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพของ บสส. ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่รับโอนมาจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และ บริษัท บริหารสินทรัพย์เพชรบุรี จำกัด (บสพ.) ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา บสส. ได้ทำการซื้อสินเชื่อด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารในจำนวนที่เพิ่มขึ้นตามแนวนโยบายของกองทุนฯ เพื่อให้ บสส. ยังคงดำเนินการต่อและรักษาขนาดของสินเชื่อด้อยคุณภาพเอาไว้ ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 สินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิในอดีตคิดเป็น 33% และสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิที่ซื้อเข้ามาคิดเป็น 67%

บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (บสก. ได้รับอันดับเครดิต ?A-/Stable? จากทริสเรทติ้ง) ซึ่งมีขนาดสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1.26 แสนล้านบาท ทั้งนี้ สินทรัพย์รวมของทั้ง บสก. และ บสส. คิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของสินทรัพย์รวมของทั้งอุตสาหกรรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเทียบสินทรัพย์ของบริษัทกับขนาดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบการเงินที่มีจำนวนมากกว่า 5 แสนล้านบาท และความช่วยเหลือที่ได้รับจากกองทุนฯ ทริสเรทติ้งมองว่าบทบาทในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐเพียงแห่งเดียวซึ่งมีหน้าที่ในการเป็นหน่วยงานของรัฐในการช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินไม่สามารถทดแทนได้โดยบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น ๆ ในระยะสั้นถึงปานกลาง

ภาระหนี้อยู่ในระดับต่ำ

กองทุนฯ กำกับดูแลระดับภาระหนี้ของบริษัทจากสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (ไม่รวมเงินกู้ยืมที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยจากกองทุนฯ) เทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น โดยบริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 0.31 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 จาก 0.36 เท่า ณ สิ้นปี 2564 โดยถ้ารวมเงินกู้ยืมที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยจากกองทุนฯ บริษัทมีภาระหนี้ของบริษัทจากสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.6 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 2.5 พันล้านบาทจะเป็นแหล่งเงินทุนที่ช่วยในการขยายการลงทุนซื้อสินทรัพย์ของบริษัทในช่วงต้นปี 2566 หากคิดรวมหุ้นกู้ชุดใหม่ที่กำลังจะออกอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.8 เท่า (ยังไม่รวมการจ่ายคืนหนี้สิน) ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะปรับเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมมาลงทุนซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

แหล่งเงินทุนจากเงินสดรับชำระหนี้และวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

บสส. มีแหล่งเงินทุนเช่นเดียวกันกับบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น ๆ โดยมีเงินสดรับชำระหนี้จากลูกหนี้สินเชื่อและวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เป็นแหล่งเงินทุนหลักสำหรับการขยายธุรกิจ โดยในปี 2563 บริษัทมีกระแสเงินสดรับจากทั้งพอร์ตสินเชื่อด้อยคุณภาพและพอร์ตทรัพย์สินรอการขายลดลงอย่างมากที่ 8.3 พันล้านบาทจากประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงก่อนปี 2563 จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โดยกระแสเงินสดรับของบริษัทลดลงต่อเนื่องในปี 2564 เป็น 5.5 พันล้านบาทจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจำหน่ายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ กระแสเงินสดรับของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จากทั้งพอร์ตสินเชื่อด้อยคุณภาพและพอร์ตทรัพย์สินรอการขายยังคงอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่ากระแสเงินสดรับของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2566 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแต่ยังคงมีแรงกดดันอยู่ ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องพึ่งพาการกู้ยืมมากยิ่งขึ้นสำหรับการลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพและทำให้ระดับหนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในด้านวงเงินกู้ยืมที่มีกับสถาบันการเงิน บริษัทมีวงเงินทั้งสิ้น 1.07 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2565 โดย 38% ของวงเงินดังกล่าวยังไม่ถูกเบิกใช้

เป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัทบริหารสินทรัพย์จากการที่หนี้เสียปรับตัวเพิ่มขึ้น

การระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจของไทย ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมยังคงอ่อนแอถึงแม้ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือมากมายจาก ธปท. เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบก็ตาม หนี้เสียจากสถาบันการเงินซึ่งรวมทั้งสถาบันการเงินของไทยและต่างชาติตลอดจนบริษัทเงินทุนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.3 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 จาก 4.65 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าสถาบันการเงินจะทยอยจำหน่ายหนี้เสียออกมาเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นวิธีหนึ่งในการลดหนี้เสียของสถาบันการเงินต่าง ๆ หลังจากที่มาตรการช่วยเหลือสิ้นสุดลงในปี 2564 ซึ่งเห็นได้จากการริเริ่มของ ธปท. ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างสถาบันการเงินกับบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อแก้ปัญหาหนี้เสีย วิธีดังกล่าวจะเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทบริหารสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่จะซื้อสินทรัพย์และเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าการจัดเก็บหนี้ที่ช้าลงในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอนี้จะยังคงเป็นปัจจัยท้าทายที่สำคัญสำหรับทุกฝ่าย

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า บสส. จะยังคงสถานะในการเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและจะรักษาความสัมพันธ์ระดับ ?สูงสุด? และบทบาทในระดับ ?สำคัญมาก? ต่อทั้งกองทุนฯ และ ธปท. เอาไว้ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของ บสส. อาจมีการเปลี่ยนแปลงหากมุมมองของทริสเรทติ้งทั้งในด้านของระดับความสัมพันธ์ และความสำคัญของ บสส. ที่มีต่อกองทุนฯ และ ธปท. นั้นเปลี่ยนแปลงไป

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ, 30 กรกฎาคม 2563

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM)

อันดับเครดิตองค์กร: AA+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 7 ปี AA+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
#1185

นายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดปริมาณการขายเหล็กในครึ่งปีหลังนี้ (ต.ค.65-มี.ค.66) จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก (เม.ย.-ก.ย.65) ที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 611,000 ตัน เนื่องจากหมดช่วงฤดูฝน หรือภาวะน้ำท่วมไปแล้ว ขณะที่คาดแนวโน้มการขายไตรมาส 4 ของปีการเงิน 66 (ม.ค.-มี.ค.66) จะดีกว่าไตรมาส 3 ของปีการเงิน 66 (ต.ค.-ธ.ค.65) เนื่องด้วยในไตรมาส 3 ได้รับผลกระทบจากฤดูฝนที่มีต่อเนื่องมายาวนาน และมีน้ำท่วมด้วย ทำให้คาดว่าปริมาณการขายเหล็กจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ของปีการเงิน 66 (ก.ค.-ก.ย.65) ที่อยู่ที่ 303,000 ตัน

ทั้งนี้ ยอดขายในครึ่งปีหลังที่จะดีกว่าครึ่งปีแรกนั้น บริษัทฯ คาดว่างานก่อสร้างของภาครัฐจะกลับคืนมาหลังจากหมดฤดูมรสุม และการเบิกจ่ายงบประมาณกลับมาดำเนินการอีกครั้ง เพื่อผลักดันนโยบายการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และโครงการสาธารณูปโภคเพื่อฟื้นฟูการเติบโตภายในประเทศและเศรษฐกิจ อีกทั้งในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ลูกค้ามีสินค้าคงคลังเหลือน้อย ทำให้จะมีการกลับมาซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถผลักดันการขายได้ดีกว่าในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ประกอบกับโดยทั่วไปในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะเป็นช่วงของการขายสำหรับภาคการก่อสร้าง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยที่จะเข้ามาส่งผลกระทบอยู่ คือ อัตราเงินเฟ้อของไทยที่อยู่ในระดับสูงราว 6%, ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น, เงินบาทที่อ่อนค่า จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบที่ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ

นายราจีฟ กล่าวว่า จากภาพรวมปริมาณการใช้เหล็กโดยรวมของประเทศในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) ปรับตัวลดลง 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงคาดการณ์ว่าปริมาณการขายปีการเงิน 66 ของบริษัทฯ น่าจะปรับตัวลดลงราว 5% เมื่อเทียบปีก่อนอยู่ที่ 1.33 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม TSTH มีความพยายามที่จะผลักดันการส่งออกเข้ามาชดเชยการขายในประเทศที่ชะลอตัวลง จากเดิมบริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 8-10% ของยอดขายรวม ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ได้มีการผลักดันการส่งออกขึ้นเป็น 14-15%

สำหรับแนวโน้มราคาขายเหล็กในไตรมาส 3 นี้ คาดปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 1,000-1,500 บาท/ตัน จากไตรมาส 2 อยู่ที่ 25,000 บาท/ตัน และไตรมาส 1 อยู่ที่ 28,000 บาท/ตัน จากความต้องการใช้เหล็กที่ลดลง และต้นทุนภาคพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มองโอกาสราคาขายจะกลับไปสู่ระดับ 30,000 บาท/ตัน นั้นก็เป็นไปได้ยากมากในช่วง 1-2 ปีนี้ เป็นไปตามภาวะอุตสาหกรรมเหล็กที่ยังไม่ฟื้นตัว จากเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว
#1186

ราคาหุ้นของบริษัทเมตา แพลทฟอร์มส์ ซึ่งเป็นเจ้าของ WhatsApp ร่วงลง 0.7% สู่ระดับ 128.85 ดอลลาร์ ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังมีรายงาน WhatsApp ล่มทั่วโลก

อย่างไรก็ดี ล่าสุด ณ เวลา 18.24 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นเมตาบวก 0.37% สู่ระดับ 130.20 ดอลลาร์ หลัง WhatsApp สามารถกลับมาให้บริการตามปกติ

ทั้งนี้ เมตาออกแถลงการณ์ระบุว่า WhatsApp ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่ได้รับความนิยม ได้กลับมาให้บริการตามปกติแล้ว หลังเกิดเหตุระบบล่มจนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการทั่วโลก

เมตาระบุว่า ทางบริษัทสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาขัดข้องดังกล่าว

"เราได้แก้ไขปัญหาแล้ว และขออภัยต่อความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น" แถลงการณ์ระบุ
WhatsApp เผชิญปัญหาระบบล่มทั่วโลกในวันนี้ โดยผู้ใช้บริการจากประเทศต่างๆ เริ่มรายงานปัญหาขัดข้องในเวลาราว 14.50 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในเวลา 16.00 น.

ทั้งนี้ WhatsApp ถือเป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยคาดว่ามีผู้ใช้บริการมากถึง 2 พันล้านคน
#1187

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ ขานรับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนวางแผนเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 2,999.50 จุด เพิ่มขึ้น 23.22 จุด หรือ +0.78%

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) เปิดเผยในวันนี้ (26 ต.ค.) ว่า จีนวางแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศของสายการบินภายในประเทศและต่างประเทศเป็น 840 เที่ยวต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. - 25 มี.ค. ซึ่งพุ่งขึ้น 106% จากช่วงเดือนต.ค. 2564 จนถึงปลายเดือนมี.ค.ปีนี้ แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนที่จะเกิดโรคโควิด-19 ระบาด

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนถูกกดดันในระหว่างวัน หลังมีรายงานว่า อู่ฮั่นซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ยในประเทศจีน ประกาศล็อกดาวน์เขตฮั่นหยางซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 18 ราย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เทศบาลเมืองอู่ฮั่นให้สั่งให้ประชาชนในเขตฮั่นหยางประมาณ 900,000 คนอยู่แต่ในบ้านพักตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันอาทิตย์ (26-30 ต.ค.) และสั่งปิดธุรกิจทั้งหมดที่ไม่จำเป็น ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปได้
#1188

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ ปิดเผยว่า ในช่วงตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแรงในเวลานี้ ถือเป็นจังหวะเหมาะ ในการสะสมหุ้นจีน เนื่องจากเป็นการปรับลด จากปัจจัยระยะสั้นมากกว่า แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในระยะยาว จะพบว่าเศรษฐกิจจีนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี

โดยเฉพาะนโยบายในระยะ 5 ข้างหน้าที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวในสุนทรพจน์งานประชุมผู้แทนระดับชาติแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป จะพบว่ามีการเน้นย้ำคำว่า ?เทคโนโลยี? ถี่มากขึ้นกว่าในอดีตหลาย เท่าตัว สะท้อนความพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจ จีนผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งด้าน เศรษฐกิจเทียบเคียงกับสหรัฐฯ ในระยะ 5 ปี ข้างหน้าย่อมต้องมีอุตสาหกรรม เทคโนโลยีจีนขึ้นเป็นจ่าฝูงหนุนให้เศรษฐกิจจีนขึ้นไปท้าชิงเบอร์หนึ่งของโลกได้

"การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้มีความชัดเจนที่จีนจะเดินหน้ากลยุทธ์การขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมและผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอนาคต ด้วยความสามารถจากภายในทั้งบุคคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้าง ระบบนิเวศนวัตกรรมที่เปิดกว้างและแข่งขันได้ทั่วโลก เป็นผู้บุกเบิก และเป็นต้นแบบ ของการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาที่สำคัญ รวมถึงจะเร่งผลักดันจีนให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมอีกด้วย"
นายตราวุทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลจีนมีการสนับสนุนอุตสาหกรรม เทคโนโลยีผ่านแผนพัฒนาประเทศ 5 ปีฉบับที่ 14 และนโยบาย Made in China 2025 ที่ผลักดันให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิต จีนได้เพิ่มงบประมาณวิจัย และพัฒนาอย่างน้อย 7% ต่อปี โดยในปี 63 ประเทศจีนมีงบประมาณในการวิจัย และพัฒนาคิดเป็น 2.4% ของ GDP หรือคิดเป็น 563 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นประเทศที่มีงบประมาณในการวิจัยและพัฒนามากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ จีนมีรายจ่ายด้านวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีคิดเป็น 76% ของรายจ่ายด้านวิจัยและพัฒนาทั้งหมด ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 55

การที่รัฐบาลจีนกำลังทุ่มสรรพกำลังทั้งเงินทุน พร้อมทั้งคนเพื่อสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีจีนอย่างจริงจัง ทำให้บริษัทเทคโนโลยีของจีนเติบโต โดดเด่นจนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี บริษัทเทคโนโลยีจีนที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงเช่น Union Pay ธุรกิจบัตรเครดิตที่มีส่วนแบ่ง ตลาด 45% หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ที่กำลังจะโค่น Facebook ลงได้อย่าง Tiktok ด้วยยอด 656 ล้านดาวน์โหลดในปี 64 หรือธุรกิจแห่งอนาคต อย่างรถยนต์พลังงานสะอาดก็มี BYD Auto Co., Ltd. ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 16.9% ของโลกเป็นต้น

แม้ในปี 64 ที่ผ่านมาหุ้นเทคโนโลยีจีนจะได้รับแรงกดดันจากนโยบาย Common Prosperity แต่ในปีนี้เองทางการเริ่มผ่อนคลายแรงกดดันลงอย่างชัดเจน จึงจะเห็นได้ว่าหุ้นเทคโนโลยีจีนได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก

ขณะที่ขนาดของตลาดในประเทศที่มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน ยังสร้าง ความได้เปรียบต่อการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพ เพราะการเติบโตของบริษัท เทคโนโลยีเน้นการขยายตัวของผู้ใช้งานเป็นหลัก ขณะที่บางมณฑลของจีนมีประชากร เกินกว่า 100 ล้านคนเทียบเท่ากับประเทศใหญ่ประเทศหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งประชาชนจีนมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 1,032 ล้านคนในปี 64 มีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน 953 ล้านคน ในขณะที่มีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูล ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตลาดกว่า 85% รองรับเทคโนโลยี 5G ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่มีโครงข่ายสัญญาณ 5G มากที่สุดในโลกอยู่ที่ 2 ล้านเสาสัญญาณ

"จีนมีความพร้อมด้านเงินทุน และประชากร สนับสนุนให้บริษัทเทคโนโลยีจีน เติบโต รุดหน้าอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ปี โดยเฉพาะสตาร์ทอัพจากจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะระดมทุนผ่าน Private Equity และ Venture Capital หรือ PEVC ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มี PEVC ลงทุนในสตาร์ทอัพมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ปี 2021 ด้วยมูลค่าการลงทุน 131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอยู่ในอุตสาหกรรม เซมิคอนดักเตอร์มีมูลค่าสูงถึง 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้จีนมีสตาร์ทอัพ ระดับยูนิคอร์น (มูลค่าตลาดมากกว่า 1 พัน ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ที่ 174 บริษัท มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก สหรัฐฯ"
ด้วยโอกาสที่หุ้นเทคโนโลยีจีนจะเติบโตได้สูงล่าสุดบริษัทจึงได้เปิดแผนการลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลใหม่ ?Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน? เพื่อรับโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน และยังช่วยนักลงทุนเพิ่ม ทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนและรับผลตอบแทนสูงอีกด้วย โดยจะคัดกรองหุ้นจีนประเภท A-share ของบริษัทเทคโนโลยีที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (SZSE) ที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง ด้วยอัลกอริทึมของ AI ที่จะคัดเลือกหุ้นดีราคาถูก และปรับพอร์ตของคุณโดยอัตโนมัติ ทุก 3 เดือน ซึ่งจะสร้างความมั่นใจได้ว่า นักลงทุนจะได้ลงทุนใน ?หุ้นคุณภาพดี ราคาเหมาะสม และมีโอกาสเติบโตสูง? อยู่เสมอ

ปัจจุบันกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking มีนโยบายลงทุนให้นักลงทุนได้เลือก ทั้งหมด 8 นโยบายด้วยกัน ประกอบด้วยหุ้นไทย หุ้นเวียดนาม หุ้นญี่ปุ่น หุ้นจีน หุ้นสหรัฐฯ หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ หุ้นสุขภาพสหรัฐ โดยวงเงินลงทุนขั้นต่ำใน Jitta Ranking เริ่มต้นที่ 500,000 บาท เพิ่มทุนครั้งละ 50,000 บาท

ทั้งนี้จากการทดสอบผลตอบแทนย้อนหลัง (Back Test) เป็นเวลา 10 ปี (55 - 64) แผนลงทุน Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีนสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ย แบบทบต้นได้ถึง 19.02% ต่อปีหลังหักค่าใช้จ่ายและรวมปันผลแล้ว ซึ่งสูงกว่าผลตอบ แทนของดัชนี CSI300 Total Return ที่ทำได้เพียง 10.06% ต่อปีในช่วงเดียวกัน เป็นเครื่องยืนยันว่าการลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีนกับ Jitta Ranking ช่วยให้เงินลงทุน เติบโตได้ชัดเจนในระยะยาว

"การลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน จะเป็นหนึ่ง ในกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสปั้นพอร์ตเติบโตให้นักลงทุน เนื่องจาก AI จะช่วยนักลงทุนขจัดอุปสรรคในการติดตามข่าว วิเคราะห์งบการเงิน และกฎระเบียบการลงทุนอันเข้มงวดสำหรับนักลงทุนต่างชาติของจีน โดย AI จะเลือกสรรและปรับพอร์ตลงทุนให้อัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกให้นักลงทุน"
#1189
ดูซีรี่ย์ออนไลน์ My Heroic Husband สามีข้าคือฮีโร่ เรื่องย่อ My Heroic Husband สามีข้าคือฮีโร่ นักแสดง ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์พากย์ไทย

My Heroic Husband สามีข้าคือฮีโร่ เรื่องราวของ เจียงเฮ่าเฉิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่ถูกเพื่อนทรยศหักหลังและทำร้ายร่างกายจนหมดสติ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนั้นย้อนอดีตไปและอยู่ในร่างของ หนิ่งอี้ ชายผู้มีฐานะยากจน ซึ่งอีกไม่นานก็ต้องเข้าพิธีวิวาห์กับ ซูถานเอ๋อร์ ลูกสาวเจ้าของกิจการผ้าแพรที่มีชื่อเสียง
#1190

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ทะลุแนว 32,000 จุด ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทจดทะเบียน

นอกจากนี้ การซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 22.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,163.12 จุด บวก 326.38 จุด หรือ 1.03% ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 0.57%

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ลบ 0.13% โดยถูกกดดันจากการดิ่งลงของราคาหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์และอัลฟาเบท

ราคาหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 1% แม้บริษัทประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 3 สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าบริษัทจะมีกำไร ขณะที่รายได้ต่ำกว่าคาดการณ์

ทั้งนี้ บริษัทโบอิ้งแถลงในวันนี้ว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุน 3.3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 โดยขาดทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์จากโครงการปรับปรุงเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 2 ลำเพื่อใช้เป็นเครื่องบิน Air Force One ซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยสัญญาดังกล่าวทำขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นอกจากนี้ โบอิ้งยังระบุว่า การผลิตเครื่องบินของบริษัทเผชิญปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนแรงงาน

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แอปเปิล แอมะซอน และเมตา แพลทฟอร์มส์ รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ

ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้

เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 3

เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันนี้ ก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 3 ในวันพรุ่งนี้

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
#1191
ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน  ขอแสดงความยินดีกับ คุณอาร์ทและคุณพิม ด้วยนะครับ อีก 1 คู่รักที่เราได้ดูแล ในเดือนธันวาคม ขอบคุณทุกความรักที่ทำให้เราได้รู้จักกัน ขอบคุณทุกโอกาสที่คู่บ่าวสาวมอบให้เรา ขอบคุณทุกคำชื่นชมและความชื่นใจของคุณพ่อคุณแม่ ที่สุดแสนประทับใจในผลงานของเรา ออแกไนซ์งานแต่งงาน เราจะตอบแทนทุกความไว้วางใจ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมและประทับใจ ฤกษ์ดีปีนี้ให้ ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน  ดูแลงานแต่งงานของคุณ เพราะเรา จะทำให้วันที่สำคัญที่สุด เป็นมากกว่า " งานแต่งงาน "
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ลีวาลีย์ เวดดิ้ง [url=https://www.livaliwedding.com/]รับจัดงานแต่งงาน[/b][/i][/color][/url] 
FACEBOOK =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=kK-R]https://www.facebook.com/livaliwedding/
LINE. ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน  ออแกไนซ์งานแต่งงาน ให้เช่าพานขันหมาก Livali Wedding
IG : livaliwedding
WEBSITE. =AT1ntzLTvzTRXJQBmon-h7yMxU9nroipa8AS1pzuqHQZ8wANDNPCAlmuMiPOPDGwc7_77UIy31ucdpQwCjpvIeIIcoijwb_fzggS2rKYXdeF9EhfiE8_CRDPfu25gkSSPQn8evhHA91CjRxeXfF-78TJykh5hblh1J-GWxZEN8zoBE4xeGowlQlezbaVDtFtCm5fUrBmim-8VBwg-KUkSN9CHtYkSwSO8Xc]http://www.livaliwedding.com/
Mobile 0888744499,0979565144
ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน รับจัดงานแต่งครบวงจร ออแกไนซ์งานแต่งงาน ดูแลพิธีการ โดย ดิ๊พ บอยสเก๊าท์ พิธีกรงานแต่ง ขอดูแลทุกคู่รัก ด้วยหัวใจ ด้วยอุปกรณ์ที่ทรงคุณค่าและมีความสวยงามตามหลักจารีตประเพณี ลำดับทุกขั้นตอนพิธี โดย พิธีกรงานแต่งงาน มืออาชีพ ดิ๊พ บอยสเก๊าท์ ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน 
LIVALI WEDDING ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน  บริการถ่ายพรีเวดดิ้ง ออแกไนซ์งานแต่งงาน
=AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่งงาน =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่งงานเช้า =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานอีเว้นท์ =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกร =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#ให้เช่าพานขันหมาก =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดพานขันหมาก =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดพานขันหมากเอก =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดพานขันหมาก =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#นายพิธีงานแต่งงาน =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#นายพิธี =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกร =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงาน =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงานเช้า =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งพิธีเช้า =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#ออแกไนซ์งานแต่ง =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่ง =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พิธีกรงานแต่งงาน =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงานครบวงจร =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานแต่งงายที่บ้าน =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานอีเว้นท์ =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานทำบุญ =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับจัดงานเปิดตัว =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับถ่ายพรีเวดดิ้ง =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#รับถ่ายพรีเซ็นเทชั่น =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พรีเวดดิ้ง =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พรีเซ็นเทชั่นงานแต่งงาน =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#พรีเซ็นเทชั่นคู่บ่าวสาว =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#Presentationwedding =AZVM-hBVhquocGUEnAAprLkvZvJuwxj7dC-bI15gaZ8GXyzjtlkAUZ2MCnNMbsIJNCwrYGWNiGX9iO2glu1HTGK2Oc12JgxMIz_Q37zgb_iOG5sxxuC1ipOKppLk55khk8_8tpsV0BfLhBbHExWc5g1lkrBWVTzo-PbNPnL79sbx0PKl4Yz6gtyFvqA8jOOoHlntpv8k54et1E3B5pMRHFf1&__tn__=*NK-R]#Presentation ลีวาลีย์ เวดดิ้ง รับจัดงานแต่งงาน  ออแกไนซ์งานแต่งงาน



#1192

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,379.40 จุด ลดลง 52.44 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 15,584.56 จุด เพิ่มขึ้น 266.89 จุด หรือ +1.74% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 2,997.42 จุด ลดลง 2.08 จุด หรือ -0.07%

ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยดัชนีฮั่งเส็งเทคปรับตัวขึ้นกว่า 4%

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ระบุในวันนี้ (27 ต.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งชะลอตัวลงจากการขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 2/2565 และเป็นการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2564

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (27 ต.ค.) ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลงในอัตราที่เร็วขึ้นในเดือนม.ค.-ก.ย. เนื่องจากผลกระทบของมาตรการควบคุมโควิด-19 และวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อกิจกรรมในภาคการผลิตของจีน

ข้อมูลของ NBS ระบุว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนลดลง 2.3% แตะระดับ 6.24 ล้านล้านหยวนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งรุนแรงกว่าในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ที่ปรับตัวลง 2.1%

ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดฉากประชุมนโยบายการเงินระยะ 2 วันในวันนี้

ด้านซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำและโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรในไตรมาส 3/2565 ทรุดตัวลงรุนแรงถึง 23.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 9.38 ล้านล้านวอน (6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของซัมซุงเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของราคาชิปหน่วยความจำและอุปสงค์ชิปที่อ่อนแอลง
#1193
โหลดแอปสะสมIOS สินค้าสะสม แฟชั่นคุณภาพดี ที่ได้รับความนิยม มีอีกทั้งมือชั้นยอด และมือสอง สามารถสั่งซื้อได้ โหลดแอปสะสมIOS หากท่านกำลังหาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ราคาย่อมเยา พร้อมที่จะจัดส่ง สามารถ สังซื้อเราได้ โหลดแอปสะสมIOS เรามีให้เลือกมากมายก่ายกอง จำนวนไม่น้อย โหลดแอปสะสมIOS หลายรุ่น หลายแบบ เป็นของแบรนเนม คุณภาพดี ซื้อ ขาย รองเท้าผ้าใบผู้ชาย รองเท้าผ้าใบผู้หญิง DOWNLOAD APP SASOM ดาวโหลด แอปซื้อรองเท้า IOS

IOS  https://apps.apple.com/th/app/sasom/id1545536161 

ANDROID  https://play.google.com/store/apps/details?

https://bit.ly/3zoe3Hh
#1194
ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดบวก 34.20 จุด รับความหวังธ.กลางชะลอขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มทรัพยากร รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,845.10 จุด เพิ่มขึ้น 34.20 จุด หรือ +0.50% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,042.30 จุด เพิ่มขึ้น 37.20 จุด หรือ +0.53%

ธนาคารกลางแคนาดาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับขึ้น 0.75% และทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ ทั่วโลกซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดอบรมส่งเสริมความรู้การเงินการลงทุนแก่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดอบรมส่งเสริมความรู้การเงินการลงทุนแก่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดอบรมส่งเสริมความรู้การเงินการลงทุนให้แก่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมี นพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดงาน โดย พรรณวดี ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมด้วย นฤมล บุญสนอง รองกรรมการผู้จัดการ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ บรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่มอบรม จำนวน 22 คน ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านการออมและการลงทุน รวมถึงรู้จักเครื่องมือในการเทรดหุ้นเบื้องต้นและเรียนรู้การใช้งาน โดยองค์กรที่สนใจความรู้ด้านการเงินของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูเพิ่มเติมที่ www.set.or.th/happymoney
#1195

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้านี้ ที่ระดับ 1,598.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด (+0.14%) มูลค่าการซื้อขายราว 31,407 ล้านบาท

การซื้อขายวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ ทำระดับสูงสุด 1,602.62 จุด และต่ำสุด 1,592.49 จุด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) (DAOL) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบทั้งแดนบวกและลบทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยมีแรงซื้อหุ้นใหญ่สลับแรงขาย ซึ่งกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับลดลงตอบรับปัจจัยเฉพาะตัว อาทิ DELTA , OR , SCC และ JWD

ในวันนี้ตลาดฯ เริ่มมีแรงขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงก่อนจะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์หน้า ซึ่งหากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่นักลงทุนคาดการณ์ที่ 0.75% จะไม่กระทบต่อดัชนีมากนัก แต่หากปรับขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าคาดก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดฯ

แนวโน้มช่วงบ่ายคาด ตลาดฯยังคงเล่นเก็งกำไรช่วงสั้น หากไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเพิ่มเติมดัชนีมีโอกาสจะปรับตัวลดลง พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด และ 1,600 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,320.29 ล้านบาท ปิดที่ 552.00 บาท ลดลง 52.00 บาท

OR มูลค่าการซื้อขาย 1,520.39 ล้านบาท ปิดที่ 24.20 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,348.24 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,196.49 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 851.52 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
#1196
MTC สุดยอด! หุ้นกู้ 2 รุ่นมูลค่า 3,000 ลบ.ขายหมดเกลี้ยง ตอกย้ำเชื่อมั่นธุรกิจไมโครไฟแนนซ์เติบโตยั่งยืน ลุยปล่อยสินเชื่อใหม่ ดันพอร์ตสินเชื่อภายในปี 2569 แตะ 2 แสนลบ.

MTC ปลื้ม!หุ้นกู้ 2 รุ่น มูลค่า 3,000 ล้านบาท ขายหมดเกลี้ยง ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อบริษัทในการเป็นผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ อนาคตเติบโตยั่งยืน เดินหน้าปล่อยสินเชื่อใหม่ทันที ฟาก "ปริทัศน์ เพชรอำไพ" รองกรรมการผู้จัดการ ประเมินแนวโน้มช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ภาพรวมของสินเชื่อยังเติบโตได้ดี ได้แรงหนุนจากไฮซีซันของธุรกิจสินเชื่อ และความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ระบุคุมเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ไม่กระทบธุรกิจ มั่นใจพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้เติบโตทะลุเป้า 30% แตะระดับ 1.2 แสนล้านบาท

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ผลการเสนอขายหุ้นกู้ 2 รุ่น มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างดีเยี่ยมสามารถจำหน่ายได้ทั้งจำนวนตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้ และยังมีนักลงทุนอยู่จำนวนหนึ่งที่ยังต้องการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทส่งผลให้บริษัทต้องนำหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมหรือ Greenshoe Option มาใช้ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯ พร้อมที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และใช้ในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไป

สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยเป็นการเสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ซึ่งได้เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 21และ 25 - 26 ตุลาคม 2565 และหุ้นกู้ดังกล่าวมีอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ "BBB+" แนวโน้ม "คงที่" โดย ทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565

"หุ้นกู้ของ MTC ยังได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้ง เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะเดียวกันเชื่อว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากความต้องการสินเชื่อใหม่มากขึ้น ขณะที่บริษัทฯมีสภาพคล่องทางเงินในระดับที่ดี และแหล่งทุนที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้มีความมั่นคงสูงทั้งในปัจจุบันและอนาคต"นายปริทัศน์กล่าว

ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯประเมินว่า ภาพรวมของสินเชื่อยังเติบโตได้ดี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากไฮซีซันของธุรกิจสินเชื่อ โดยเฉพาะฤดูกาลทำการเกษตรทำให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ยังอยู่ในระดับที่บริษัทฯ ควบคุมได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการปรับค่าแรงงานขั้นต่ำจะช่วยเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระของลูกหนี้

บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมในปี 2565 จะเติบโตแตะระดับ 120,000 ล้านบาทและสำหรับเป้าระยะยาวบริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ 200,000 ล้านบาทภายในปี 2569 ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ถ้าบริษัทฯสามารถรักษาการเติบโตอย่างในปัจจุบันได้ เป้าที่ตั้งไว้ก็น่าจะเป็นไปได้

ทั้งนี้ บริษัทฯได้เดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565บริษัทฯ มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6,475 สาขา เพิ่มขึ้นจำนวน 676 สาขาในปี 2565 จากเป้าหมายการเปิดสาขาปี 2565 อยู่ที่ 6,500 สาขา ซึ่งมีโอกาสจะขยายสาขาได้มากกว่าที่ประเมินไว้ ถือว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีจำนวนสาขา และลูกค้ามากที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้สามารถบริการแก่ผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อได้อย่างทั่วถึงและกระจายในวงกว้างมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้กรณีที่ สคบ.ได้ปรับเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ บริษัทฯมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบกับธุรกิจหลักที่เน้นการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกันกว่า 80% ในขณะที่ยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่มีเพียง 5% ของพอร์ตรวมประกอบกับบริษัทฯ คิดดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกับเพดานดอกเบี้ยที่ สคบ. พิจารณากำหนด จึงไม่กังวลกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
#1197
กรุ๊ปเหมา จอร์เจีย พวกเราเป็นบริษัทนำเที่ยว พาท่านไปท่องเที่ยวทั่วโลก ราคาย่อมเยา ปี2565 -2566 กรุ๊ปเหมา จอร์เจีย ทัวร์คุ้มค้าเงินที่ท่านจ่ายไป เดืนทางปลอดภัย มีไกด์ดูแลตลอดเส้นทาน กรุ๊ปเหมา จอร์เจีย พวกเรามีของกินและก็ของหวานตลอดการเดินทาง กรุ๊ปเหมา จอร์เจีย พวกเราจัดกรุ๊ปเหมา เที่ยวแบบส่วนตัว รับทำ วีซ่า ทุกประเทศ
#1198
อยากบริจาคอุปกรณ์กีฬา นึกถึง ขายส่งอุปกรณ์กีฬา.com 
#1199
ต้องดูแลตัวเอง... 
การทานอาหารที่มีประโยชน์ ถูกหลักโภชนาการ ทานแต่พอดี
การออกกำลังกายตามความเหมาะสมกับสุขภาพ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  
อาจจะเพิ่มด้วยอาหารเสริมที่มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
Ucore สอบถามปรึกษาแนะนำวิธีทานถูกต้องและสั่งซื้อได้
LINE: @balances
Balance Ucore อาหารเสริม ประกอบด้วย สารสกัดจากธรรมชาติ13 ชนิด
น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันงา, น้ำมันเมล็ดงาขี้ม่อน, สารสกัดโสม, สารสกัดถั่งเช่า, เห็ดชิตาเกะ, เห็ดยามาบูชิตาเกะ, เห็ดไมตาเกะ, สารสกัดขิง, สารสกัดพลูคาว, สารสกัดเห็ดหลินจือ, เบต้ากลูแคน, โคเอนไซม์ Q10
จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
Ucore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ปกติ 1,290 บาท
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ!! 2กระปุก แถม1กระปุกฟรี
*ส่งฟรี มีบริการเก็บเงินปลายทาง*
สอบถามปรึกษาแนะนำวิธีทานถูกต้องและสั่งซื้อ
LINE: @balances
รายละเอียดเพิ่มเติม Ucore
#1200

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 52,011 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขาย สูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 22,460 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ขายสุทธิ 931 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 879 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.71% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%

ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-3 bps. สำหรับกระแสเงินลงทุน ของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 1,730 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 880 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 850 ล้านบาท ด้านปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา รายงานแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 จะขยายตัว 3.1% สูงกว่าระดับ 2.9% ที่คาดการณ์เดิม ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 49.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 13-14 ธ.ค. ลดลงจากเดิมที่เคยให้น้ำหนักมากถึง 75% หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดบางรายเริ่มแสดงความกังวลผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET BUY ของนักลงทุนต่างชาติ 2,461 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯในคืนนี้