ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ sideway ขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากทิศทางค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์นี้ นักลงทุนคาดว่าจะปรับขึ้น 0.75% ซึ่งมองว่าจะไม่ได้มีผลกระทบอย่างมีนัย แต่ส่วนใหญ่จะรอติดตามถ้อยแถลงต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน ธ.ค. โดยนักลงทุนคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% จากเดิมที่ 0.75%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเข้าเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/65 ที่จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับที่ 1,605 จุด และ 1,600 จุด แนวต้าน 1,612-1,620 จุด

เพราะอาการบ้านหมุนถึงจะเป็นอาการเล็กน้อย แต่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากร่างกายจะเสียการทรงตัว จนเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา
 
6 อาการบ้านหมุน สังเกตมีอาการเหล่านี้หรือไม่
เวียนศีรษะ มึนงง 
ทรงตัวไม่อยู่ เดินโซเซ 
คลื่นไส้อาเจียน 
แค่ลืมตา เพดานห้องก็หมุน จนไม่สามารถลืมตาได้
หูอื้อ มีเสียงดังในหู
หน้ามืด 
ถ้าใครตรงเกือบครบ หรือมีครบหมด อาการเหล่านี้คืออาการบ้านหมุน นะคะ อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบไปพบแพทย์จะปลอดภัยยิ่งกว่า
 
การดูแลตัวเองเมื่อมีอาการบ้านหมุน
พยายามอย่าฝืน ให้นอนราบกับพื้น และรีบไปพบแพทย์โดยด่วน และควรดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น เช่น
-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
-พยายามไม่เครียด
-หลีกเลี่ยงจากสารก่อภูมิแพ้ เพราะอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ และพักผ่อนไม่เพียงพอ
-ออกกำลังกายเบาๆ 
-หลีกเลี่ยงเสียงดัง เพื่อลดการกระทบกระเทือนบริเวณหู
 
หรือให้ตัวช่วยดีๆ อย่าง Balance U Core อาหารเสริมที่สรรพคุณสารสกัดในผลิตภัณฑ์ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้นอนหลับสนิทยิ่งขึ้น ช่วยลดอาการภูมิแพ้ ช่วยบรรเทาอาการบ้านหมุน และทำให้ร่างกายแข็งแรง
สรรพคุณสารสกัดในผลิตภัณฑ์ช่วยเรื่องใดบ้างสอบถามและสั่งซื้อได้
*สอบถามปรึกษาเพื่อให้การแนะนำก่อนสั่งซื้อ*
LINE: @balances

Balance UCore (BLU)
จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ปกติ 1,290 บาท
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ2กระปุกแถมฟรี1กระปุก
ส่งฟรีเคอรี่ มีบริการเก็บเงินปลายทาง
U core ของแท้จากบริษัทโดยตรง
สอบถามปรึกษาก่อนสั่งซื้อเพื่อแนะนำ และวิธีทานถูกต้องดีต่อสุขภาพสอบถามสั่งซื้อ
LINE: @balances
รายละเอียดเพิ่มเติม อาหารเสริม Ucore
 

ทัวร์เนปาล จัดทัวร์ดูงานต่างถิ่น รับจัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว ทัวร์เนปาล รับจัดกรุ๊ปเหมา จัดกลุ่มส่วนตัวในประทศ ทัวร์เนปาล โดยคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการท่องเที่ยว ปี2565 -2566

เสริมจมูก ราคา คลินิก เป็นสถานพยาบาลเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ เสริมจมูก ราคา การรับรองคุณภาพให้เป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานด้านการแพทย์ เสริมจมูก ราคา ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เสมอกันโรงพยาบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยหมอ จบบอร์ดเฉพาะทาง แล้วก็ เสริมความงาม ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ ใจประสาท คุณครูแพทย์ เสริมจมูก ราคา เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกท่าน

ปรับรูปหน้า คลินิก เป็นคลินิกเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ปรับรูปหน้า การยืนยันประสิทธิภาพให้เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ปรับรูปหน้า ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เสมอกันโรงพยาบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์ จบบอร์ดเฉพาะทาง และ เสริมความสวย ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีนายแพทย์ ธีรภัทร์ หัวใจประสาท อาจารย์แพทย์ ปรับรูปหน้า เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกท่าน

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 พ.ย. 2565

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (1 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,653.20 จุด ลดลง 79.75 จุด หรือ -0.24%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,856.10 จุด ลดลง 15.88 จุด หรือ -0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,890.85 จุด ลดลง 97.30 จุด หรือ -0.89%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (1 พ.ย.) โดยเริ่มต้นเดือนพ.ย.ได้อย่างสดใส ท่ามกลางความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 414.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด หรือ +0.58%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,328.25 จุด เพิ่มขึ้น 61.48 จุด หรือ +0.98%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,338.74 จุด เพิ่มขึ้น 85.00 จุด หรือ +0.64% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,186.16 จุด เพิ่มขึ้น 91.63 จุด หรือ +1.29%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ในวันอังคาร (1 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และหุ้นบีพีพุ่งขึ้นหลังรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้นและเพิ่มแผนซื้อหุ้นคืน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,186.16 จุด เพิ่มขึ้น 91.63 จุด หรือ +1.29% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (1 พ.ย.) ขานรับความหวังที่ว่าจีนอาจจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง หลังจากใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 เป็นเวลานานในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 88.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 94.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (1 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 1,649.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 54.8 เซนต์ หรือ 2.87% ปิดที่ 19.667 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 20.4 ดอลลาร์ หรือ 2.19% ปิดที่ 950.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 45.30 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,877 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (1 พ.ย.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 111.4800

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9888 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9887 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1479 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1470 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 148.18 เยน จากระดับ 148.62 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9997 ฟรังก์ จากระดับ 1.0016 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3616 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3627 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีดเดน ที่ระดับ 11.0160 โครนา จากระดับ 11.0451 โครนา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 32,653.20 จุด ลดลง 79.75 จุด, -0.24%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,856.10 จุด ลดลง 15.88 จุด, -0.41%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 10,890.85 จุด ลดลง 97.30 จุด, -0.89%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,186.16 จุด เพิ่มขึ้น 91.63 จุด, +1.29%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,328.25 จุด เพิ่มขึ้น 61.48 จุด, +0.98%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,338.74 จุด เพิ่มขึ้น 85.00 จุด, +0.64%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 61,121.35 จุด เพิ่มขึ้น 374.76 จุด, +0.62%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 7,052.30 จุด ลดลง 46.59 จุด, -0.66%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,445.92 จุด ลดลง 14.46 จุด, -0.99%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,130.50 จุด เพิ่มขึ้น 37.39 จุด, +1.21%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 15,455.27 จุด เพิ่มขึ้น 768.25 จุด, +5.23%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,969.20 จุด เพิ่มขึ้น 75.72 จุด, +2.62%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 13,037.21 จุด เพิ่มขึ้น 87.46 จุด, +0.68%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,335.22 จุด เพิ่มขึ้น 41.61 จุด, +1.81%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,678.92 จุด เพิ่มขึ้น 91.46 จุด, +0.33%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,976.90 จุด เพิ่มขึ้น 113.40 จุด, +1.65%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,169.60 จุด เพิ่มขึ้น 114.80 จุด, +1.63%

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวานนี้ (1 พ.ย.) เนื่องในวันหยุดประจำชาติ

บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT นำโดย นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สีเดลต้า ยกขบวนสีแห่งนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง เข้าร่วมออกบูทงาน mai FORUM 2022 มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด "Growing Stronger Together, We are SME Role Model" ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยบูธของ DPAINT ได้รับความสนใจจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนอย่างล้นหลาม

SNNP คว้ารางวัล Outstanding Deal Awards ในงาน SET Awards 2022

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย (ซ้าย) กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เกียรติมอบโล่รางวัลให้กับคุณนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ (ที่2 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริษัท และคุณฐากร ชัยสถาพร (ที่2 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) (SNNP) เนื่องในโอกาสได้รับรางวัล Outstanding Deal Awards ในงาน SET Awards 2022 ในกลุ่ม Business Excellence ประเภทรางวัลด้านการระดมทุน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร และรางวัลดังกล่าวนับเป็นรางวัลเกียรติยศที่ทรงคุณค่า สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความยั่งยืนของบริษัทฯ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ณ เวลา 23.23 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.04% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.107%

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกัน 4 ครั้ง หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.

นอกจากนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุม เพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex พุ่งกว่า 300 จุด ทำนิวไฮ 9 เดือน
 
ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ เหนือระดับ 61,000 จุด แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ราคาหุ้นในตลาดปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม

ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดตลาดที่ 61,121.35 บวก 374.76 จุด หรือ 0.62%

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 1-2 พ.ย. ส่วนธนาคารกลางอินเดียและธนาคารกลางอังกฤษจะจัดการประชุมในวันที่ 3 พ.ย.

MFC จัดสัมมนาชี้โอกาสลงทุนหุ้นเอเชีย 'The Promising Era of Asia' ตอกย้ำการเติบโตเศรษฐกิจยังพุ่งสูง

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงมุมมองด้านอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและการมองหาโอกาสในตลาดหุ้นเอเชีย ผ่านงานสัมมนา Exclusive Seminar: The Promising Era of Asia ในหัวข้อ 'โอกาสลงทุนในเอเชียและกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า (M-ASIA)' ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

โดย คุณธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึง การลงทุนในหุ้นเอเชียว่า "บริษัทฯ มองว่าการเติบโตและรายได้เศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ประเทศสิงคโปร์, ฮ่องกง, และเกาหลีใต้ ยังคงอยู่ในอัตราที่สูงและจะก้าวกระโดดขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจัยด้านโอกาสการเติบโตจากการบริโภคของชนชั้นกลาง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซมากขึ้น รวมไปถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว, กิจกรรมในประเทศ และแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียที่ยังคงอยู่ในจังหวะขาขึ้นช่วงระยะยาว (Long-Term Trend) จากหุ้นเติบโตอีกด้วย ปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทฯ มองว่าหุ้นเอเชีย เป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตามองในแง่การลงทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนในระยะยาว"

พร้อมกันนี้เอง MFC ยังเปิดเผย แผนการออกกองทุนตัวใหม่อย่าง 'กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า' หรือ M-ASIA ที่ลงทุนใน Fullerton Lux Fund - Asia Absolute Alpha เน้นลงทุนในหลักทรัพย์คุณภาพหรือหุ้นจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค อาทิ 'Singapore Telecommunications ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย, Taiwan Semiconductor Man.cturing (TSMC) บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ระดับโลก เป็นต้น โดยกองทุนดังกล่าว บริหารจัดการโดยทีมบริหารกองทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนมามากกว่า 25 ปี   นอกจากนี้ คุณธนโชติ  ยังกล่าวเสริมอีกว่า "กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า จะเป็นอีกหนึ่งมุมมองการลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่สร้างประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับทุกท่านได้อย่างยั่งยืน"

ทั้งนี้ กองทุนกำลังอยู่ระหว่างอนุมัติจัดตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และจะเสนอขายต่อไปภายหลังการอนุมัติดังกล่าวเสร็จสิ้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. เบทาโกร (BTG) บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่มีโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร และเป็นผู้นำ เรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารระดับสูง ก้าวสู่การเป็น World-Class Food & Agro Total Solutions Provider พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 77,392 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อใน การซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BTG"

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย ว่า BTG เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีมูลค่า เสนอขายสูงที่สุดในตลาดทุนไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นี้

BTG ประกอบธุรกิจเกษตรและอาหารครบวงจรครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ การผลิตและ จำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และปลา ผลิตภัณฑ์อาหาร แปรรูป ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน รวมไปถึงอาหารสัตว์เลี้ยง จำหน่ายในประเทศและต่างประเทศกว่า 20 ประเทศ ทั่วโลก ปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป และไส้กรอก ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เช่น S-Pure, Betagro, ITOHAM และ แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น Perfecta, DOG n Joy และ CAT n Joy เป็นต้น

BTG มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 9,674 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่ม ทุนต่อประชาชนทั่วไป 434.8 ล้านหุ้น และการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 65.2 ล้านหุ้น มีกำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 10 - 17 ตุลาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 17,392 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 77,392 ล้านบาท

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 21.2 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภาย หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลัก ทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เบทาโกร เปิดเผยว่าบริษัทมีความยินดี เป็นอย่างยิ่งที่ BTG จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งสู่ การเป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารในราคาที่เป็นธรรม โดยเชื่อมั่นเป็นอย่าง ยิ่งว่าความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ประกอบกับประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 55 ปี และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ จะเสริมให้ บริษัทมีศักยภาพการเติบโตและการแข่งขันอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไป เป็นทุน

ในการขยายธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ ของกระบวนการผลิต ตลอดจนชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของบริษัท

BTG มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน กระแสเงินสด แผนการลงทุน รวมทั้งความจำเป็นและความเหมาะ สมอื่นๆ ตามความเห็นสมควรคณะกรรมการบริษัทฯ

ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 36.18% TAE HK Investment Limited ถือหุ้น 20.67% และกลุ่มครอบครัวแต้ไพสิฐพงษ์ 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

 นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอนกรีตสำเร็จรูปครบวงจร นำทัพทีมผู้บริหารร่วมงาน "mai FORUM 2022" มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด "Growing Stronger Together, We are SME Role Model" จัดโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียน เอ็ม เอ ไอ (maiA) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยภายในงาน YONG ร่วมพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับนักลงทุน พร้อมเผยถึงความเชื่อมั่นแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 ยังคงตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน รวมถึงมีโอกาสได้รับงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม พร้อมเผยความคืบหน้าการสร้างโรงงานขยายกำลังการผลิตคอนกรีต เสริมโอกาสรับงานก่อสร้างในอนาคต

LEO คว้ารางวัล Outstanding Investor Relations Awards ในงาน SET Awards 2022

คุณภากร ปีตธวัชชัย (ซ้าย) กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้เกียรติมอบโล่รางวัลให้กับคุณสุรสิทธิ์ อัศวศักดิ์เสรี (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลีโอ โกล. โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (LEO) เนื่องในโอกาสได้รับรางวัล Outstanding Investor Relations Awards ในงาน SET Award 2022 กลุ่มบริษัทจดทะเบียนฯ ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาตลาด (Market Cap.) สูงกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติของตลาดทุนไทย ที่มอบให้บริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้านการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ ทั้งการพัฒนาศักยภาพการให้ข้อมูลธุรกิจที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ และการพัฒนาประสิทธิภาพช่องทางการสื่อสารแก่นักวิเคราะห์ นักลงทุน และผู้ถือหุ้น โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้

ทัวร์เวียดนาม สะพานกระจก ราคาไม่แพง นำทาง เดินทางไม่เป็นอันตราย ราคาย่อมเยา ทัวร์เวียดนาม สะพานกระจก ราคาไม่แพง มีไกด์ดูแล ที่พัก บังกะโล ทัวร์เวียดนาม สะพานกระจก ราคาไม่แพง สะดวกสะบาย ของกินอร่อย มีพนักงานดูแลท่านตลอดเส้นทาง ยินดีให้คำแนะนำ ทัวร์เวียดนาม สะพานกระจก ราคาไม่แพง ปี2565 -2566
https://bit.ly/3DqPHxL

ยูโอบีได้ดำเนินการอย่างเสร็จสมบูรณ์ในการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและประเทศไทย

ยูโอบีประกาศว่ายูโอบีได้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในมาเลเซียและไทยอย่างเสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วในวันนี้ ส่วนในอินโดนีเซียและเวียดนามคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 กิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยนี้ประกอบด้วยกลุ่มลูกค้าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและมีหลักประกัน ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และธุรกิจเงินฝากรายย่อย

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธนาคารในการขยายธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในภูมิภาคอาเซียน นอกจากธุรกิจหลักของธนาคารในประเทศสิงคโปร์ หลังเสร็จสิ้นกระบวนการเข้าซื้อกิจการแล้ว คาดว่าขนาดธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในทั้ง 4 ประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มีการให้บริการลูกค้าจำนวน 5.3 ล้านคน และเสริมทีมงานให้แกร่งขึ้นด้วยพนักงานอีก 5,000 คน

มร.วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี กล่าวว่า "กระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยที่แล้วเสร็จในมาเลเซียและไทยถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญ ในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นลงทุนในเครือข่ายสาขาในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง การซื้อกิจการนี้นอกจากจะเป็นการขยายธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งแล้วยังสนับสนุนความมุ่งมั่นในการก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนนึกถึงในการใช้บริการเป็นอันดับแรก

"วันนี้เรายินดีต้อนรับเพื่อนพนักงานและลูกค้ารายใหม่สู่ครอบครัวยูโอบี การรวมพนักงานซิตี้กรุ๊ปเข้าสู่ทีมงานที่มีคุณภาพของยูโอบีในทั้งสองประเทศ จะช่วยให้เรามีศักยภาพและความสามารถในการดำเนินการให้สำเร็จตามแผนการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ให้เจริญเติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นให้ลูกค้าซิตี้กรุ๊ปได้สัมผัสประสบการณ์การโอนย้ายธุรกิจแบบราบรื่น ด้วยเครือข่ายการให้บริการ สาขาและเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย จากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้เรานำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้นแก่กลุ่มลูกค้าที่ขยายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม"

ยูโอบีจะยังคงให้ความสำคัญกับการโอนย้ายธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปให้เป็นไปอย่างราบรื่นในทั้ง 4 ประเทศ โดยหวังว่าการโอนย้ายลูกค้าทั้งระบบจะแล้วเสร็จในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ ยูโอบียังได้ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง 4 ท่านเพื่อเป็นผู้นำธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยที่ขยายตัวขึ้นในมาเลเซียและไทย ได้แก่ - Ms Elaine Fan, Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี มาเลเซีย - Mr Ronnie Lim, Head of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี มาเลเซีย - คุณวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย - คุณยุทธชัย เตยะราชกุล Head of Personal Financial Services ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

มร. ตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า "กระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในประเทศไทยที่เสร็จสมบูรณ์แล้วนั้น ช่วยผลักดันเป้าหมายของเราในการก้าวสู่การเป็นธนาคารในประเทศไทยที่ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ ตลอดจนสะท้อนถึงคำมั่นสัญญาของธนาคารในการยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าชาวไทยและพันธสัญญาที่ยูโอบีให้ไว้ต่อประเทศไทย ธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยในประเทศไทยของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จะเข้ามาช่วยเสริมกลุ่มลูกค้าของยูโอบี ประเทศไทย ที่เน้นกลุ่มลูกค้าด้านสินเชื่อที่มีหลักประกันได้อย่างลงตัว การรวมธุรกิจครั้งนี้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินชั้นเยี่ยม รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรและสาขาตลอดจนช่องทางการให้บริการที่ขยายเพิ่มขึ้นกว่าเดิม"

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ยูโอบีได้เปิดตัวแคมเปญรีเฟรชแบรนด์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเจตจำนงในการตอกย้ำคุณค่าที่ธนาคารตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้ารายย่อยของธนาคารโดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลางของธนาคาร แคมเปญการสื่อสารล่าสุดแสดงให้เห็นว่าลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการ ความชอบ และเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ธนาคารสร้างผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ทันสมัย และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นรายบุคคลได้เป็นอย่างดี

แคมเปญนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงกลยุทธ์ของธนาคารในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งที่เติบโตขึ้นในภูมิภาคอาเซียน การหาลูกค้ารายใหม่และให้บริการลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน UOB TMRW แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล และการตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าผ่านช่องทางแบบ Omni-channel

นอกจากนี้ ยูโอบีมีแผนในการดำเนินการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูโอบีได้ประกาศเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำระดับภูมิภาคหลายแห่ง รวมถึงสิงคโปร์แอร์ไลน์, 'มิชลิน ไกด์', Club21 และ Shopee ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าในการแลกรับของรางวัล โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น

กรุ๊ปเหมาเวียดนาม พาเที่ยว เดินทางไม่มีอันตราย ราคาประหยัด กรุ๊ปเหมาเวียดนาม มีไกด์ดูแล ที่พัก เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ กรุ๊ปเหมาเวียดนาม สบายสะบาย ของกินอร่อย มีพนักงานดูแลท่านตลอดทาง ยินดีให้คำแนะนำ กรุ๊ปเหมาเวียดนาม ปี2565 -2566
https://bit.ly/3zCST8t

บมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) เปิดเผยว่า COTTO ได้รับแจ้งจาก บริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด (CCCL) (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มี บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ถือหุ้น 100%) ว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 CCCL ได้โอนหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดใน COTTO จำนวน 82.75% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ COTTO ให้แก่บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (SCG Mat) (ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SCC เช่นเดียวกันโดย SCC ถือหุ้นทางอ้อม 100%) แล้ว

การโอนหุ้นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทของ SCC ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุมนโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารของ COTTO จากการโอนหุ้นดังกล่าวแต่ อย่างใด

การปรับโครงสร้างการถือหุ้นดังกล่าว SCG Mat ได้รับยกเว้นหน้าที่การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ COTTO ตามข้อ 9 (5) (ข) ของประกาศคณะกรรมการก กับตลาดทุนที่ ทจ. 12/2554เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบง กิจการ (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)