ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => อื่นๆ ที่ไม่ตรงหมวดข้างบน => Topic started by: Hanako5 on November 11, 2022, 06:27:39 PM

Title: บล.พาย ให้กรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,610-1,650 จุด เน้นหุ้นใหญ่เกาะกระแส Fund Flow
Post by: Hanako5 on November 11, 2022, 06:27:39 PM

บทวิเคราะห์จาก บล.พาย (Pi) ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้ 1,610-1,650 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุน (https://www.nakhonpress.com/wti-oil-slips-2-on-fears-of-zero-covid-policy-fed-rate-hikes-dragging-demand/)ยังเน้นหุ้นขนาดใหญ่เกาะกับกระแส Fund Flow อาทิ ธนาคาร (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) น้ำมัน (PTTEP) ท่องเที่ยว (AOT MINT SPA) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) พร้อมแนะทยอยสะสมโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC) รับกระแสดอกเบี้ยกำลังใกล้เข้าสู่จุดสูงสุด

MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท) ประเมินว่าประมาณการกำไรสำหรับปี 2023-24 มี downside ไม่มากนัก คาดแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2022 ไปตลอดทั้งปี 2023 ด้วยเหตุนี้จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดราคาเป้าหมายลงจาก 41.00 บาท เป็น 36.00 หลังจากปรับลดประมาณการกำไรปี 2023 ลง 23% เพื่อสะท้อนต้นทุนสาธารณูปโภคและอาหารที่สูงขึ้น

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 69.00 บาท) เชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลง 47% YTD เป็นโอกาสในการทยอยสะสม ปัจจุบันหุ้นซื้อขายเพียง 19.27xPE?23E, ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยคู่แข่งในไทยที่ 33.4xPE?23E

บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้นดาวโจนส์คืนวันศุกร์ปรับขึ้น 1.26% หลังจากสหรัฐฯรายงานอัตราการว่างงานที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ (คาด 3.6% ออกมาที่ 3.7%) ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับขึ้น 4.1% ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และข่าวจีนอาจจะเตรียมเปิดประเทศ

ภาพรวมวันศุกร์ค่อนข้างเป็นสัญญาณบวกจากหลายๆ ตัวเลข อาทิ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีปรับลงพร้อมกับการอ่อนค่าอย่างมีนัยของ Dollar Index แม้สหรัฐฯจะรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ปรากฏว่าอัตราการว่างงานสูงกว่าที่ตลาดคาด

หากพิจารณาใส้ในของการจ้างงานจะพบว่าการจ้างงานในภาคส่วนที่เพิ่มขึ้นในจำนวนที่ลดลง ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน (2) การให้บริการทางธุรกิจ (3) การศึกษาและธุรกิจการแพทย์ (4) ธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หากพิจารณาเงินเฟ้อสหรัฐฯในเดือน ก.ย.พบว่าอุตสาหกรรมที่เงินเฟ้อยังเร่งขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ (1) ยานยนต์ใหม่ (2) การให้บริการด้านการแพทย์ จึงเชื่อด้วยการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในจำนวนที่ลดลงในอุตสาหกรรมที่เงินเฟ้อยังเร่งตัว ประกอบกับอัตราการว่างงานสูงขึ้นกว่าตลาดคาดไว้จึงทำให้ตลาดผ่อนคลายกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ย

ล่าสุด CME FED WATCH คาดว่าที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (ฟด) เดือน ธ.ค. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.5% ด้วยน้ำหนัก 52% ขณะที่อีก 48% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

ปัจจัยที่ตลาดจะไปให้น้ำหนักในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี ทราบผลราวช่วง 20.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดที่ 8%YoY 0.6%MoM ทั้งนี้ หากต่ำกว่าคาดจะยิ่งเป็นปัจจัยกดดัน Dollar Index หนุนสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวต่อเนื่อง และเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่องหนุน Fund Flow เข้าต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด Bloomberg รายงานว่าในปี 2022 มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าไทยเกินกว่าเป้าหมายที่ 10 ล้านคนและมีโอกาสที่ปี 2023 อาจจะถึง 18 ล้านคน โดยมีนักท่องเที่ยวจีนเป็น Upside ดังนั้นจะยิ่งส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดไทยเป็นบวกและเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง

ส่วนปัจจัยในประเทศเน้นที่ (1) เงินเฟ้อไทย Bloomberg คาดที่ 6%YoY หากต่ำกว่าคาดจะยิ่งหนุนบาทแข็งค่า (2) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Q3/65